“โกลเบล็ก” แนะเก็งกำไรหุ้นเข้าคำนวณ SET100 ครึ่งหลังปี 2568

59

มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวนจากความกังวลต่อกรณีที่มูดี้ส์ ลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ ลงสู่ระดับ Aa1 จากเดิมที่ระดับ Aaa ด้วยเหตุหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น ด้านสภาพัฒน์ฯ มองการอุปโภคของไทยชะลอตัว จึงให้กรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ที่ 1,170-1,230 จุด  แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นเข้าคำนวณ SET100 ในช่วงครึ่งหลังปี 2568

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงกดดันหลังจาก มูดี้ส์ เรทติ้งส์ (Moody’s Ratings) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ ลงสู่ระดับ Aa1 จากเดิมที่ระดับ Aaa โดยให้เหตุผลว่า หนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น และภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็เพิ่มขึ้นด้วย  โดยคาดการณ์ว่าภาระหนี้ของรัฐบาลกลางจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 134% ของ GDP ภายในปี 2578 เทียบกับระดับ 98% ในปี 2567

ขณะที่ปัจจัยลบในประเทศนักลงทุนเริ่มมีความกังวลทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าสภาพัฒน์ ได้มีการแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2568 เศรษฐกิจไทยเติบโต 3.1% ต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2567 ที่ ขยายตัว 0.7% สาเหตุจากการใช้จ่าย การส่งออก สินค้า และการลงทุนภาครัฐขยายตัวในเกณฑ์สูง อย่างไรก็ตาม การอุปโภคบริโภคของเอกชนและการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาลชะลอตัว ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนลดลง จึงมองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ที่ 1,170-1,230 จุด

ด้านปัจจัยต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีสหรัฐฯ ใช้มาตรการควบคุมการส่งออกโดยมิชอบ พร้อมดำเนินการเด็ดขาดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทจีน หลังจากสหรัฐฯ ออกคำเตือนบริษัทต่าง ๆ ไม่ให้ใช้ชิป AI รุ่น Ascend ของหัวเว่ย (Huawei) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะเพิ่มบริษัทจีน หลายแห่งเข้าไปในบัญชีจำกัดการส่งออก (Entity List) ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านั้นไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีหรือสินค้าจากสหรัฐฯ ได้ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่ได้รับการอนุมัติ

นอกจากนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อการลงทุนได้เช่นกัน อาทิ สัปดาห์ที่ 3 สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์การส่งออก, สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์, วันที่ 30 พ.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย, สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค, สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, วันที่ 25 มิ.ย. กำหนดประชุม กนง. ครั้งที่ 3/2568 ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ  20 พ.ค. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR), วันที่ 21 พ.ค. ญี่ปุ่น รายงานยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย., สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, วันที่ 22 พ.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนเม.ย., วันที่ 17-18 มิ.ย. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งที่ 4/68

นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก  แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะมีการนำเข้าคำนวณดัชนี SET100 ในรอบครึ่งปีหลังของปี 2568 ที่จะประกาศราวกลางเดือนมิ.ย. นี้  ได้แก่ AURA, MBK, TOA และ WHAUP

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำ มีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน โดยนักลงทุนยังคงถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากสงคราม ในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไร้ความคืบหน้า นอกจากนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐส่งสัญญาณว่าสหรัฐจะเป็นผู้กำหนดอัตราภาษีเพียงฝ่ายเดียว ขณะที่สหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงลดการเก็บภาษีนำเข้าชั่วคราวได้ อีกทั้งสหรัฐเผยว่าอาจมีการทำข้อตกลงทางการค้ากับอินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ คาดทำให้มีแรงขายทำกำไรกดดันราคาทองคำ นอกจากนี้ประธานเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 3,130 – 3,250 $/Oz หากไม่ผ่านแนวต้านให้ชะลอการลงทุน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon