มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งปิดแดนบวกวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 มิ.ย.) โดยดัชนี DJIA +1.1% dod (+1.2% wow), S&P500 +1.0% dod (+1.5% wow), Nasdaq +1.2% dod (+2.2% wow) หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ที่ระดับ 1.39 แสนตำแหน่ง ออกมาดีกว่าตลาดคาดที่ 1.26 แสนตำแหน่ง (vs. เดือนเม.ย. 1.47 แสนตำแหน่ง) และ รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือน พ.ค. ที่ 0.4% สูงกว่าตลาดคาดที่ 0.3% (vs. เดือนเม.ย. 0.2%) แม้ว่าอัตราการว่างงานเดือนพ.ค. จะยังคงอยู่ที่ 4.2% เช่นเดียวกับเดือนเม.ย. และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ก็ตาม แต่ตลาดลดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และส่งผลให้ตลาดคาดว่า Fed จะยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.50% ในการประชุม 17-18 มิ.ย. นี้ ก่อนที่จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือน ก.ย.
ตลาดหุ้นสหรัฐยังได้รับแรงสนับสนุนจาก 1) รายงานว่าสหรัฐและจีนจะมีการเจรจาทางการค้าอีกครั้งในวันนี้ ณ กรุงลอนดอน โดยจะเน้นไปที่ประเด็นการส่งออกแร่หายาก และ 2) แรงซื้อหุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ ทั้ง Nvidia, Meta Platforms และ Apple ซึ่งรวมถึง Tesla ที่รีบาวด์ขึ้นมา 3.7% หลังราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 14% เมื่อวันพฤ. ที่ 5 มิ.ย.
ข้อมูลภาคตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่งและความคืบหน้าเจรจาการค้า ยังส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า และกดดันให้ราคาทองคำปิดลบ 0.8% จากแนวโน้มที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI +1.9% จากแนวโน้มอุปสงค์ฟื้นตัว กอปรกับแรงสนับสนุนจากการเห็นพ้องเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของ OPEC+ และรัสเซีย ต่ำกว่าที่ซาอุดิอาระเบียเสนอไว้
• SET Index : เราคาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบ 1,120-1,150 จุด แม้อาจจะมีแรงสนับสนุนในระยะสั้นจากปัจจัยเฉพาะตัวและข่าวเชิงบวกที่เข้ามาเป็นระยะ ทั้งในเชิงการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เรามองว่า Upside ยังคงจำกัด เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ในระยะกลาง-ยาว ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติมเจรจาการค้า และ จับตาข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ เดือนพ.ค. (11 มิ.ย.)
ทั้งนี้ เรามองว่าดัชนี SET วันนี้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นจากตัวเลขภาคตลาดแรงงานสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด และ ความหวังเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนที่มีรายงานว่าจะมีขึ้นในวันนี้พร้อมสัญญาณเชิงบวก
ด้านปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขดัชนี CPI ไทยเดือนพ.ค. หดตัว 0.57% yoy ดีกว่าตลาดคาดที่ -0.83% (vs. เดือนเม.ย. -0.22%) ขณะที่ Core CPI เติบโต 1.09% yoy สูงกว่าตลาดคาดที่ +0.95% (vs. เดือนเม.ย. +0.98%) สะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ สนับสนุนแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง. ที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้น 1 ครั้งใน 3Q25 และ อีก 1 ครั้งใน 4Q25
นอกจากนี้ ติดตามประเด็นเสถียรภาพการเมืองไทย ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล (เพื่อไทย-ภูมิใจไทย) ที่จะกระทบต่อการดำเนินโครงการสำคัญ โดยเราคาดว่าจะมีการปรับครม. ในเร็วๆ นี้ รวมถึงติดตามประเด็นอดีตนายกฯ ทักษิณพักรักษาตัวที่รพ. ตำรวจ ชั้น 14 ที่จะมีการลงมติของแพทยสภา (พฤ. 12 มิ.ย.) กรณีลงโทษ 3 แพทย์ที่เกี่ยวข้อง และศาลฎีกาที่จะมีนัดไต่สวน (ศ 13 มิ.ย.)
รวมถึงประเด็นในประเทศอื่นๆ อาทิ
1) ธปท. เตรียมกำกับธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์โดยตรง หลังประกาศในราชกิจจาฯ มีผล 5 มิ.ย. 2025 แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพดานดอกเบี้ยซึ่งยังคงอยู่ที่ 10% สำหรับรถใหม่, 15% รถมือสอง และ 23% สำหรับมอเตอร์ไซค์ทั้งใหม่-มือสอง โดยผู้ให้บริการสินเชื่อ Non-bank ทั้งหมดจะยังคงปฏิบัติตามนี้
2) กรณีเหตุน้ำมันรั่วไหลรอบสองในรอบ 2 ปีของ TOP ที่ SBM#2 เมื่อ 6 มิ.ย. แต่ปริมาณน้อยกว่าครั้งก่อน (8,000 ลิตร vs. 60,000 ลิตร) เรามองว่าไม่กระทบกำลังผลิตหลักมากนัก และ ราคาหุ้นน่าจะปรับตัวลงแค่ในระยะสั้น เนื่องจากค่าการกลั่นยังแข็งแกร่งใน 2Q25 อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจกระทบภาพลักษณ์ด้าน ESG ซึ่งหนุนมุมมองเชิงลบในระยะยาว
• หุ้นแนะนำ
SYNEX : ในที่ประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายบริหารตั้งเป้ายอดขายเติบโตใน 2025 ที่ 10-12% ด้วยการขยาย Portfolio แบรนด์ใหม่ รวมถึงเจาะกลุ่มตลาดใหม่ รวมถึงอาจมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่ลูกค้าทยอยเปลี่ยนเครื่องใหม่ หลังสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ของ Microsoft นอกจากนี้ การเปิดตัว Nintendo Switch 2 ในไทย คาดว่าจะช่วยผลักดันผลประกอบการ 2H25
(Take profit : 12.6 / Stop loss : 11.8)
KBANK : เราเชื่อว่า KBANK เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการขยายธุรกิจของ GULF ไปสู่ธุรกิจบริการทางการเงินและสินเชื่อดิจิทัล เรายังมองว่า KBANK และ AIS สามารถสร้างความร่วมมือในรูปแบบการร่วมทุน เพื่อให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่รับประกันโดยข้อมูลการชำระเงินรายเดือน
(Take profit : 157.0 / Stop loss : 154.0)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon