ปั้นไอเดียท่องเที่ยว…ให้ล้ำด้วยข้อมูล! BDI ปลุกพลังเยาวชน คิดนอกกรอบ จัดกิจกรรม BDI Hackathon 2025 สร้าง Smart Tourism ด้วย AI และ Big Data มุ่งกระจายรายได้สู่ชุมชน

15

มิติหุ้น – 30 มิถุนายน 2568, เชียงใหม่ – เมื่อข้อมูลไม่ใช่เรื่องของนักวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่เป็น “พลังสร้างเมือง” ที่สามารถเปลี่ยนเมือง เปลี่ยนชุมชน เปลี่ยนอนาคตของประเทศ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้จริง สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเวทีให้นักคิดรุ่นใหม่จากทั่วประเทศปล่อยของเต็มที่ใน “BDI Hackathon 2025: AI & Data Innovation for Smart Tourism” เวทีแข่งขัน Hackathon ที่ผสานเทคโนโลยี AI และ Data Analytics กับโจทย์จริงในพื้นที่นิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อค้นหานวัตกรรมท่องเที่ยวแห่งอนาคต พร้อมชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 27-29 มิถุนายน 2568 ณ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Uniserv CMU)

การแข่งขันในครั้งนี้ เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพทางด้านนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยี โดยมีผู้เข้าร่วมจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ มาร่วมนำเสนอแนวทางเชิงสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “Ruby-chan! Hai! Nani ga suki?” ด้วยแนวคิดต้องการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว และกระจายรายได้สู่ชุมชนโดยรอบพื้นที่นิมมานเหมินท์ ได้โชว์ไอเดียออกมาในรูปแบบแอปพลิเคชัน “YEEPING” ผลงานนี้จึงโดดเด่นในการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างเหมาะสม ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอนาคต

ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวว่า BDI Hackathon 2025 เป็นการร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และเครือข่ายพันธมิตร โดยปีนี้เป็นการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  อันทรงคุณค่า เป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตของผู้เข้าร่วมแข่งขัน

          “การท่องเที่ยว” เป็นโจทย์ของการแข่งขันในปีนี้ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีข้อมูลหลากหลายมิติ ครอบคลุมทั้งด้านพื้นที่ พฤติกรรมนักท่องเที่ยว และผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมถึงสะท้อนการทำงานร่วมกันของชุมชนในหลายระดับ ทั้งการเดินทาง การใช้ทรัพยากร การบริการสาธารณะ ความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว ตลอดจนคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งช่วยให้เยาวชนสามารถเข้าใจปัญหา วิเคราะห์ข้อมูล และพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม

“เราภูมิใจมากที่กิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากเยาวชนทั่วประเทศอย่างล้นหลาม มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 568 คน จาก 115 ทีม 86 สถาบันการศึกษา ทั้งระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา ครอบคลุม
26 จังหวัดจาก 5 ภูมิภาค ทั่วประเทศ ที่สำคัญคือความหลากหลายของผู้เข้าแข่งขัน หลายทีมรวมตัวกันจากต่างโรงเรียน ต่างมหาวิทยาลัย ต่างจังหวัด ซึ่งทั้งหมดคือพลังร่วมของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนสังคม และได้คัดเลือก 15 ทีม เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ” ดร.สุนทรีย์ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับโจทย์การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ  ‘การวิเคราะห์ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่นิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่’ ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยศักยภาพ ทั้งทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การบริโภค และพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจโจทย์ ที่ได้จากการสำรวจปัญหาในพื้นที่ย่านนิมมานเหมินทร์ ได้แก่ ปัญหาการจราจรและที่จอดรถ ปัญหา ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และความท้าทายในการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่นอกเมือง โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเลือกประเด็นใดประเด็นหนึ่ง หรือเชื่อมโยงหลายประเด็นเข้าด้วยกันเพื่อนำไปสู่
การพัฒนาแนวคิด และแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์และมีศักยภาพในการนำไปใช้ได้จริง

ข้อมูลที่ใช้สำหรับการแข่งขันเป็นข้อมูลจากหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวเนื่องกับพื้นที่ย่านนิมมานเหมินทร์ เช่น ข้อมูลสถานที่น่าสนใจ (Point of Interest: POI) ที่ครอบคลุมร้านค้า ร้านอาหาร และบริการอื่น ๆ ในพื้นที่ ข้อมูลการเคลื่อนตัวของนักท่องเที่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหนาแน่น และรูปแบบการเดินทางภายในพื้นที่ และข้อมูลจราจรซึ่งสะท้อนถึงสภาพการเดินทาง และจุดที่อาจมีปัญหา เรื่องความคับคั่ง หรือขาดแคลนพื้นที่จอดรถ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ของชุดข้อมูล และจัดเตรียมข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้งาน จากนั้นจึงนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการออกแบบแนวคิด หรือโซลูชันที่ตอบสนองต่อโจทย์ของการแข่งขันโดยเน้นการสร้างผลงานที่ใช้ข้อมูลเป็นฐานในการขับเคลื่อน สร้างมูลค่าเพิ่มจากข้อมูล และเชื่อมโยงกับความต้องการของภาคธุรกิจ หรือหน่วยงานในพื้นที่อย่างชัดเจน

“ข้อมูลและนวัตกรรมดิจิทัลจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากแต่เป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กับเมืองและสังคมได้จริง เราเชื่อว่าแนวคิดจากเวทีนี้ คือ จุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนเมืองให้ดีขึ้น และก้าวไปสู่การมีส่วนร่วมในการออกแบบอนาคตและกำหนดทิศทางนโยบายอย่างแท้จริง ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับภารกิจของ BDI ในการเป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ ในการส่งเสริมให้มีบุคลากรที่สามารถใช้งาน AI (AI User) อย่างน้อย 10 ล้านคน, ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน AI (AI Professional) อย่างน้อย 90,000 คน และนักพัฒนา AI (AI Developer) อย่างน้อย 50,000 คน ภายในระยะเวลา 2 ปี” ดร.สุนทรีย์ กล่าวสรุป

ขณะที่นายศวิษฐ์ โกสียอัมพร ผู้แทนจากทีมชนะเลิศ “Ruby-chan! Hai! Nani ga suki?” กล่าวถึงประสบการณ์บนเวที BDI Hackathon 2025 ว่า ความท้าทายสำคัญคือการพัฒนาไอเดียให้ตอบโจทย์ ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ภายใต้เป้าหมายการกระจายรายได้สู่ชุมชน ทีมจึงร่วมกันสร้างสรรค์
แอปพลิเคชันYEEPING (ยี่ปิง)” แพลตฟอร์มเพื่อการท่องเที่ยวภายในจังหวัดเชียงใหม่ที่เน้นการหาสถานที่ที่ใช่ ผจญภัยในแบบที่คุณชื่นชอบ โดยนำเทคโนโลยี AI และโมเดล LLM มาวิเคราะห์ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวสนใจ เพื่อค้นหาเส้นทางท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับพฤติกรรมรายบุคคล นักท่องเที่ยวสามารถออกแบบทริปได้ด้วยตนเอง เริ่มจากนักท่องเที่ยวเลือกวางแผนการท่องเที่ยวภายในแอปฯ และเดินทางไปเช็กอินในสถานที่ตามแผน เพื่อเก็บแต้มและรับส่วนลดจากร้านค้า หรือโรงแรมโดยรอบย่านนิมมานฯ ทำให้เกิดการเดินทางและกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง

ผลการแข่งขัน BDI Hackathon 2025

  • รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Ruby-chan! Hai! Nani ga suki ประกอบด้วย นางสาวจิราภรณ์ จันธิวงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, นายศวิษฐ์ โกสียอัมพร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, นางสาวพิมณภัทร คูวุฒยากร โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย, นายกฤต วินิจฉัยกุลมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายอัญญาฤทธิ์ จ๊ะราจา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมวิศวะลูกพ่อหลุยส์ ประกอบด้วย นายอมร พันธุรัตน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายณภัทร เจริญกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล, นายกันต์ธีร์ วัฒนานันท์ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย, นายธนณัฏฐ์ เอี้ยวพาเจริญ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย และนายณรัก ชัยแก้ว โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม anomaly ประกอบด้วย นายธีร์ เหมจินดา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายธีร์จุฑา ศรีวรานนท์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายภูริณัฐ นลอาสา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, นายธนพัฒน์ แช่มเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และนางสาวเจนตา วงศ์เลิศสกุล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สามารถติดตามอัปเดตข้อมูลและกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ได้ทางเว็บไซต์ https://bdi.or.th/ และ Facebook: BDI – Big Data Institute

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon