ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 9,896 ล้านบาท “บ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร” ที่ “A” แทนที่หุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 6,800 ล้านบาทเดิม

22

 

มิติหุ้น – ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 9,896 ล้านบาทและไถ่ถอนภายใน 15 ปีของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” โดยอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่จะใช้ทดแทนอันดับเครดิตหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 6,800 ล้านบาท ที่มีกำหนดไถ่ถอนภายในระยะเวลา 15 ปี ที่ทริสเรทติ้งได้ประกาศเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เนื่องจากบริษัทปรับเพิ่มวงเงินของหุ้นกู้ที่ออกจำหน่าย

เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทหรือบริษัทในกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์อาหารดังนี้ (1) ใช้ในการดำเนินธุรกิจทั่วไป และ/หรือ (2) ขยายธุรกิจ และ/หรือ (3) ลงทุนและ/หรือซื้อหุ้นหรือทรัพย์สิน และ/หรือ (4) ชำระหนี้ และ/หรือ (5) ให้กู้ยืมแก่บริษัทในกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์อาหาร

ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน ไม่มีประกันและไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท (Hybrid Debentures) ที่ระดับ “BBB+” โดยแนวโน้มอันดับเครดิตยังคงอยู่ที่ “Stable” หรือ “คงที่” ด้วยอันดับเครดิตของบริษัทยังคงสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมระดับโลก รวมถึงการมีฐานการผลิตที่กระจายตัวในหลายประเทศ และการมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกจำกัดโดยภาระหนี้สินระดับสูงของบริษัทจากการลงทุนและซื้อกิจการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ จุดแข็งของบริษัทถูกลดทอนจากความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงความผันผวนของอัตรากำไร นอกจากนี้ ภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่เกิดจากสงครามการค้าและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญอีกประการหนึ่ง

ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก อันเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นในธุรกิจสัตว์บก เนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงและราคาสุกรที่ฟื้นตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ EBITDA ของบริษัทเพิ่มขึ้น 78.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 2.2 หมื่นล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2568 อัตราส่วน EBITDA Margin ก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.1% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเทียบกับระดับ 8.7% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567

ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA อยู่ที่ระดับ 6 เท่าโดยคำนวณจากตัวเลขย้อนหลัง 12 เดือน ทั้งนี้ เมื่อไม่นานนี้บริษัทได้ลงทุนเพิ่มเติม 23.8% ใน บริษัท C.P. Pokphand Co., Ltd. (CPP) ด้วยมูลค่าประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มเติมจากค่าใช้จ่ายลงทุนที่วางแผนไว้เดิมที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะแข็งแกร่งขึ้นในปี 2568 น่าจะช่วยชดเชยผลกระทบต่ออัตราส่วนหนี้สินจากการลงทุนใน CPP ลงได้บางส่วน

ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะกู้เงินใหม่เพื่อชำระคืนหนี้สินทางการเงินส่วนใหญ่ที่จะครบกำหนดในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยบริษัทมีเงินกู้ระยะยาวจากธนาคารและตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดชำระประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายลงทุนที่ระดับประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาทในปี 2568 และเงินลงทุนเพิ่มเติมใน CPP จำนวน 3.6 หมื่นล้านบาท โดยแหล่งที่มาของเงินสดเพื่อรองรับการชำระหนี้ประกอบด้วย เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2568 และเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาทในปี 2568 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากความสามารถในการเข้าถึงตลาดทุนของบริษัทแล้ว ทริสเรทติ้งมองว่า ความเสี่ยงในการกู้ยืมใหม่เพื่อนำมาชำระคืนหนี้เงินกู้เดิมของบริษัทอยู่ในระดับที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ณ เดือนมีนาคม 2568 บริษัทมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยรวมหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุนแต่ไม่รวมภาระผูกพันในสัญญาเช่า รวมทั้งสิ้นจำนวน 4.9 แสนล้านบาท โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ของบริษัทย่อยที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนประมาณ 3.2 แสนล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนของบริษัทอยู่ที่ระดับ 65% อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากการมีบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ ทริสเรทติ้งจึงมองว่าผู้ถือตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทไม่มีความเสียเปรียบเจ้าหนี้เงินกู้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทย่อยอย่างมีนัยสำคัญ

ตามข้อกำหนดทางการเงินของตราสารหนี้ที่ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนต่ำกว่า 2.0 เท่านั้น ณ เดือนมีนาคม 2568 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 1.3 เท่า ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินดังกล่าวได้ตลอดช่วงระยะเวลา 12-18 เดือนข้างหน้า

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ โดยทริสเรทติ้งคาดว่าความหลากหลายของการดำเนินงาน ตลอดจนผลิตภัณฑ์และตลาดของบริษัทจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของสินค้าการเกษตรที่มีลักษณะคล้ายสินค้าโภคภัณฑ์ และจากโรคระบาดต่าง ๆ ได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีการลดระดับหนี้สินทางการเงินลงอย่างมาก จนส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทลดลงต่ำกว่า 8 เท่าอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมากจากระดับที่คาดการณ์ไว้ หรือหากบริษัทมีการก่อหนี้เพื่อซื้อกิจการซึ่งส่งผลให้ระดับหนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 26 ธันวาคม 2567

– เกณฑ์การพิจารณาส่วนทุนและอันดับเครดิตของตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน, 20 ธันวาคม 2567

– เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565

– อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF)

อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
CPF257A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
CPF25DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A
CPF261A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 13,064.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A
CPF268A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,989.1 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A
CPF276A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 7,164.4 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
CPF276B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,643 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
CPF277A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A
CPF281A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 6,540 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A
CPF281B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,028.7 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A
CPF288A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,079.7 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A
CPF28NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A
CPF292A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 7,060 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A
CPF301A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 14,599 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A
CPF308A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,806 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A
CPF30NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 A
CPF311A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,034.4 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A
CPF312A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,190 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A
CPF314A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A
CPF326A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 940 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2575 A
CPF328A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,845 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2575 A
CPF331A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,372.4 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2576 A
CPF342A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2577 A
CPF351A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,901 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2578 A
CPF356A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,120 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2578 A
CPF418A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,465 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2584 A
CPF41DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,580 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2584 A
CPF22PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 15,000 ล้านบาท BBB+
CPF23PA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน 11,932 ล้านบาท BBB+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 9,896 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 15 ปี A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon