มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง โดย S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคของสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง และ ทนทาน โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อรายเดือน สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 3.9% ใน เดือนมิ.ย. แข็งแกร่งกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.2%
มากไปกว่านั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ยังเปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 2/2568 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.5% ในไตรมาส 1
ดังนั้น ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,484.49 จุด เพิ่มขึ้น 229.71 จุด หรือ +0.52%, และ ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,297.36 จุด เพิ่มขึ้น 33.66 จุด หรือ +0.54% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,885.65 จุด เพิ่มขึ้น 155.16 จุด หรือ +0.75%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ ภาพดังกล่าวสะท้อนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเดียวกัน โดย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 13.80 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 3,345.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1.46% ปิดที่ 69.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายของแคว้นเคอร์ดิสถานของอิรักเปิดเผยว่า เกิดเหตุโดรนติดระเบิดพุ่งเข้าโจมตีบ่อน้ำมันหลายแห่งในเขตผู้ว่าการดะฮูก (Duhok) โดยโดรน 2 ลำโจมตีบ่อน้ำมันในพื้นที่เฟช คาบูร์ (Faysh Khabur)
• SET Index : ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง และ ความคืบหน้าความหวังของการเจรจรไทย-สหรัฐฯ โดย ล่าสุด “ทีมไทยแลนด์” นำโดย “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายก และรมว.คลัง เจรจากับสหรัฐฯ ต่อเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) ปัจจัยข้างต้นทำให้เราเริ่มมองบวกมากขึ้นกับตลาดทุนไทยในเชิงจิตวิทยา ทำให้เรามองกรอบของดัชนีที่ระดับ 1,180-1,200 จุด หลังหุ้นไทยปรับตัวบวกทะลุ 1,150 และ 1,180 จุด ได้ไม่ยากเย็น ระมัดระวังแรงขายที่ระดับ 1,200 จุด (แนวต้านทางจิตวิทยา)
หุ้นแนะนำ
GULF :
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินบาทที่แข็งค่าอาจช่วยให้บริษัทสาธารณูปโภคของไทยลดต้นทุนทางการเงินลงได้
GULF คือ หนึ่งใน Top pick ของเรา ซึ่งอยู่ในสถานะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแนวคิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เป็นผู้นำในด้านอัตรากำไร
(Take profit : 45.50 / Stop loss : 44.50)
PTTEP :
เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะอ่อนตัวใน 2H25 แต่ราคาก๊าซของ PTTEP น่าจะทรงตัวที่ประมาณ 5.7 เหรียญสหรัฐ/mmbtu ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุน EPS
ทั้งนี้ ราคาหุ้น PTTEP ในปัจจุบันจะเท่ากับราคาน้ำมันในระยะยาวที่ 49 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลจึงน่าจะรับรู้แนวโน้ม เชิงลบของราคาน้ำมันส่วนใหญ่แล้ว
(Take profit : 115.00 / Stop loss : 112.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
