มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน และ ให้ภาพคละกัน ในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดย รายงานของไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) ในอัตราสูง หรือ เก็บภาษีนำเข้าขั้นต่ำที่ 15% ถึง 20% ในการทำข้อตกลงกับ EU ส่งผลให้ตลาดร่วงลงก่อนฟื้นตัวบางส่วนในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,342.19 จุด ลดลง 142.30 จุด หรือ -0.32%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,296.79 จุด ลดลง 0.57 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,895.66 จุด เพิ่มขึ้น 10.01 จุด หรือ +0.05%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 69.28 ดอลลาร์/บาร์เรล แทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันศุกร์ (18 ก.ค.) ท่ามกลางปัจจัยข่าวเศรษฐกิจและประเด็นภาษีของสหรัฐฯ ที่ผสมผสานกัน รวมถึง ความกังวลด้านอุปทานน้ำมัน หลังสหภาพยุโรป (EU) ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมจากกรณีสงครามในยูเครน
ด้านสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 13.00 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 3,358.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจยังคงหนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
• SET Index : เรามองกรอบ SET Index ณ ระดับ 1,200-1,225 จุด หลัง SET ทะลุผ่าน 1,200 จุดขึ้นมาได้ โดย ภาพใหญ่จับตาการเจรจาไทย-สหรัฐฯ และ รายงายงบ 2Q25 โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ อาทิ
1) BBL ทำกําไรสุทธิ 1.18 หมื่นล้านบาท (+0.3% yoy, -6.2% qoq) ใน 2Q25 ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเรา 6% โดย แม้สินเชื่อใน 2Q25 ลดลง 0.3% yoy และ 0.3% qoq แต่สินเชื่อใน 1H25 ขยายตัว 0.7% จากสิ้นปี 2024 และ NPL เพิ่มขึ้น qoq เพราะมีสินเชื่อกลับมาเป็น NPL จากกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและการพาณิชย์
2) TTB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 (-6.6% yoy, -1.8% qoq) มาอยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท สอดคล้องกับประมาณการของเราในไตรมาส 2/2568 และประมาณการของ Bloomberg โดย สินเชื่อในไตรมาส 2/2568 หดตัวจากสินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ลดลง ส่วนโครงการบรรเทาหนี้ “คุณสู้ เราช่วย” ทำให้ผลตอบแทนสินเชื่อในไตรมาส 2/2568 ลดลง 10bp คงคำแนะนำ “ถือ” โดยคงราคาเป้าหมายที่คำนวณจาก GGM
หุ้นแนะนำ
GULF : การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินบาทที่แข็งค่าอาจช่วยให้บริษัทสาธารณูปโภคของไทยลดต้นทุนทางการเงินลงได้ GULF คือ หนึ่งใน Top pick ของเรา ซึ่งอยู่ในสถานะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแนวคิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เป็นผู้นำในด้านอัตรากำไร
(Take profit : 45.50 / Stop loss : 44.50)
TTB : รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ลดลง (-6.6% yoy, -1.8% qoq) อยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท แต่ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต 14.2% yoy และ 9.1% qoq แข็งแกร่งจาก กำไรจากตราสารทางการเงิน รายได้จากเงินปันผล และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอื่นๆ
(Take profit : 1.91 / Stop loss : 1.87)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon