มิติหุ้น- SYNEX โดยบล.ทิสโก้ ระบุว่า คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิใน Q2/68 จะแข็งแกร่งที่ 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% YoY และเพิ่มขึ้น 3% QoQ การเติบโตที่มากผิดปกติในช่วง low season นี้เป็นผลมาจากความต้องการที่แข็งแกร่งในกลุ่มแท็บเล็ต/iPad (ยังคงขาดตลาด) อุปกรณ์สวมใส่ และสมาร์ทโฟน
รวมถึงการเปิดตัว Nintendo Switch 2 ในปลายเดือนมิถุนายน 68 โดยคาดการณ์อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (OPM) ไว้ที่ 1.6% (เทียบกับ 1.7% ใน 2Q24 และ 1.6% ใน 1Q25) กำไรจากการดำเนินงานไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่คาดการณ์ไว้ที่ 26 ล้านบาท จะอยู่ที่ 168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% YoY
ดังนั้น 1H25F จะคิดเป็น 50% ของกำไรสุทธิในปี 68 ของเรา เรายังคงประมาณการกำไรและคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยได้รับแรงหนุนจาก 1) ความสามารถในการเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ เข้าพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง 2) แรงหนุนจากการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ซึ่งจะเริ่มรอบการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ 3) ผู้ค้าปลีกขยายบริการผ่อนชำระสำหรับผลิตภัณฑ์ไอที และ 4) การ contribution ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มเกมและคลาวด์ ซึ่งช่วยเสริมอัตรากำไรขั้นต้น (GPM)
เราคาดการณ์ว่าผลประกอบการใน 2H25F จะค่อนข้างแข็งแกร่ง แม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะอ่อนแอ
ด้วยการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอ เรายังคงคาดการณ์ว่ายอดขายของ SYNEX จะเติบโตในระดับ double-digit YoY ในช่วง2H25F โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขาย Nintendo Switch 2 ที่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ (คาดว่าจะมียอดขาย 100,000 เครื่องภายในสิ้นปี และขยายจุดขายให้ครอบคลุมกว่า 120 สาขา) รอบการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ในองค์กรหลังจากการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในกลุ่มสมาร์ทโฟน กลุ่มธุรกิจและบริการคลาวด์ นอกจากนี้ เรายังพบว่าผู้ค้าปลีกได้ขยายบริการผ่อนชำระสำหรับสมาร์ทโฟน โดยใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าราคาปานกลาง (8,000-15,000 บาท) ในพื้นที่ชนบท (80% ของลูกค้าในร้านค้าปลีกท้องถิ่นใช้บริการนี้) ข้อเสียอาจขึ้นอยู่กับโครงการภาครัฐ/รัฐบางโครงการที่ยังคงมีอัตราการเบิกจ่ายที่ล่าช้าและโครงการล่าช้า
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SYNEX โดยมูลค่าที่เหมาะสมของเราเท่ากับ 16.0 บาท คำนวณจากวิธี Sum of the Parts เราคำนวณมูลค่าที่เหมาะสมสิ้นปี 68 โดยใช้วิธี Sum of the Parts โดยเรารวม 1) 15.5 บาท/หุ้น สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายหลัก ที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) 18.7 เท่า และ 2) 0.5 บาท/หุ้น สำหรับมูลค่าของ NCAP (ส่วนลดการถือครอง 20%) ความเสี่ยงหลัก ได้แก่ 1) อัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาด และ 2) ผลการดำเนินงานของ NCAP
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon