มิติหุ้น – บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า SET INDEX ปรับตัวขึ้นแรง 16.3% ตั้งแต่เดือน ก.ค.68 จนถึงปัจจุบัน ชนะเกือบทุกประเทศ ทั้ง กลุ่ม TIP เอเชียเหนือ สหรัฐฯ และโซนยุโรป แพ้เพียงเวียดนามประเทศเดียวที่ปรับขึ้น +19.2%
สาเหตุหลักๆที่ดันดัชนี SET ขึ้นได้ คือ TRADE WAR ผ่อนคลาย การเมืองไทยที่ชัดเจนขึ้น คาดหวังดอกเบี้ยขาลง งบประมาณปี 69 ไม่ล่าช้า และกำไรบจ.ครึ่งแรกปี 68 ดูสดใส
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาหลักๆ คือ DELTA และ THAI ที่ปรับตัวขึ้นมาร้อนแรงกว่า 57.3% และ 69.5% ตามลำดับ โดยTHAI ใช้ราคาปิดหลังวันกลับเข้าเทรด 1 วัน ซึ่งรวมกันดัน ดัชนี 112 จุด จากดัชนี SET INDEX ที่ขึ้นมา 177 จุด หรือบวก16.3% หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 63%
โดย SET INDEX มียอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน และต่างชาติ กว่า 1.06 หมื่นล้านบาท และ 1.40 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเห็นเม็ดเงินย้ายจาก SAFE HAVEN มาสู่ตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ด้วยหลายปัจจัย คือ 1. ดอกเบี้ยนโยบายลดลงเหลือ 1.5% ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง จูงใจให้คนหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น 2. ตราสารหนี้เกิด BULL STEEPENING YIELD ตราสารระยะสั้นที่ปรับตัวลงแรงกว่าระยะยาว มักจะเกิดขึ้นเวลา เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม
และ 3. มูลค่า MARKET CAP ตราสารหนี้ 17.5 ล้านล้านบาท ยังสูงกว่าตลาดหุ้นที่ 16.1 ล้านล้านบาท ถ้ากลับขึ้น ไปเท่ากัน SET เท่ากับ 1405 จุด โดยปกติ MARKET CAP ตลาดหุ้นจะสูงกว่าเสมอ
อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคม 68 นี้ มีคดีทางการเมืองไทยหลายคดีที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลต่อทิศทางการเมือง ของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญในพรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตรได้แก่ นาย ทักษิณ และนางสาวแพทองธาร โดยมีรายละเอียดและวันนัดหมายของศาลดังนี้:
- คดี มาตรา 112 ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 22 ส.ค. นี้
- คดีจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร ชินวัตร” ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาในวันที่ 29 ส.ค. นี้ กรณีไม่เข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อ ในทางกลับกันหากเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง จะพ้นจากตำแหน่งนายกฯ พรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯคนใหม่
- คดีชั้น 14 ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ศาลฎีกานัดวันที่ 9 ก.ย. 68
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น กรณี “แพทองธาร” ถูกถอดถอนหรือทักษิณถูกตัดสินว่ามีความผิด อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือ ยุบสภาได้ แต่หากศาลยกคำร้องทั้งหมด รัฐบาลชุดปัจจุบันอาจได้ไปต่อในรูปแบบ “ครม.แพทองธาร 2”
ซึ่งประเด็นคดีความทั้งหมด มีแนวทางที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนัดศาลในช่วง ปลาย ส.ค.68-ต้น ก.ย.68 จึงทำให้ นักลงทุนมีความมั่นใจต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น และมีโอกาสเห็นการไหลเข้าของ FUND FLOW เพื่อดัน ดัชนีขึ้นได้ต่อจาก ระดับปัจจุบัน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon