เมื่อฝุ่นแร่ใยหินอยู่ใกล้เด็ก โรงเรียน และสถานพยาบาล วัสดุก่อสร้างที่ไม่ปลอดภัย = ความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม

10

มิติหุ้น – ในขณะที่เรากำลังพูดถึงความก้าวหน้าในด้านวัสดุก่อสร้าง การพัฒนาเมือง และการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน สิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามคือ “ความปลอดภัยที่แฝงอยู่ในอาคาร” โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้างที่ต้องมีความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในอาคารนั้น ไม่น่าเชื่อว่า…อาคารหลายแห่งในประเทศไทย ทั้งโรงเรียนเก่า โรงพยาบาล ศูนย์ราชการ หรือแม้แต่บ้านเรือนบางส่วน ยังมีส่วนผสมของ แร่ใยหิน (Asbestos) ซึ่งเป็นวัสดุอันตรายต่อสุขภาพของผู้สัมผัสและสูดดมเข้าไป วัสดุเหล่านี้อาจดูแข็งแรงและใช้งานได้ดีในระยะสั้น แต่กลับซ่อนภัยร้ายที่คุกคามสุขภาพในระยะยาวอย่างช้า ๆ

เมื่อ “พื้นที่ปลอดภัย” กลับกลายเป็นจุดเสี่ยง

หลายคนอาจเข้าใจว่าอันตรายจากแร่ใยหินเกิดขึ้นเฉพาะในสถานที่ก่อสร้างหรือโรงงานอุตสาหกรรม แต่ในความเป็นจริง อาคารเก่าหลายแห่งยังคงใช้วัสดุที่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน ซึ่งรวมถึงโรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์เด็กเล็ก หรือแม้แต่สถานที่ราชการ หากวัสดุเหล่านี้เสื่อมสภาพโดยไม่ได้รับการตรวจสอบหรือบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม ฝุ่นแร่ใยหินก็อาจฟุ้งกระจายสู่ระบบหายใจของเด็ก นักเรียน หรือผู้ป่วยที่เข้ามาใช้งานอาคารเหล่านั้นทุกวัน

ลองจินตนาการถึงเด็กอนุบาลที่วิ่งเล่นอยู่ใต้หลังคาเก่าที่แตกผุ หรือผู้ป่วยโรคปอดที่นั่งรอรับการรักษาในโรงพยาบาลที่พื้นกระเบื้องเริ่มแตกร่อน ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ การหายใจเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็อาจเป็นการรับฝุ่นพิษเข้าสู่ปอดโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเวลาผ่านไป ความเสี่ยงจะกลายเป็นความจริงที่อาจรักษาไม่ทัน

แร่ใยหิน…ฆาตกรเงียบที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

แร่ใยหินคือเส้นใยแร่ธรรมชาติที่ทนความร้อนสูง ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในวัสดุก่อสร้าง เช่น กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องปูพื้น แผ่นผนัง ท่อซีเมนต์ หรือวัสดุกันไฟ ด้วยต้นทุนต่ำและคุณสมบัติที่เหมาะกับงานก่อสร้าง แร่ใยหินจึงได้รับความนิยมในอดีต แต่ปัญหาเริ่มต้นเมื่อวัสดุเหล่านี้เสื่อมสภาพ แตกหัก หรือถูกกระทบกระเทือน เส้นใยขนาดเล็กของแร่ใยหินจะหลุดลอยในอากาศ กลายเป็นฝุ่นพิษที่เข้าสู่ร่างกายได้ทางการหายใจ ภัยของแร่ใยหินไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่มักใช้เวลาสะสมในร่างกายนานนับสิบปี ก่อนจะก่อให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น

  • โรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด (Mesothelioma)
  • โรคแอสเบสโตสิส (Asbestosis)
  • โรคมะเร็งปอดและทางเดินหายใจเรื้อรัง

สิ่งที่น่ากลัว คือ  แม้ได้รับในปริมาณน้อยก็ยังสามารถก่อให้เกิดโรคได้ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ซึ่งมีระบบภูมิคุ้มกันต่ำและความสามารถในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง

โลกกำลังเลิกใช้แร่ใยหิน แต่ไทยยังตามหลัง

หลายประเทศได้ประกาศยกเลิกการใช้แร่ใยหินอย่างเด็ดขาดแล้ว รวมถึงหลายประเทศในสหภาพยุโรป และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เนื่องจากตระหนักถึงผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพประชาชน พร้อมส่งเสริมการใช้วัสดุทดแทนที่ปลอดภัยกว่า เช่น ใยสังเคราะห์ ไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือวัสดุธรรมชาติที่ไม่ปล่อยสารพิษ

ประเทศไทยแม้จะมีความพยายามในการจำกัดการใช้แร่ใยหิน แต่ในความเป็นจริงยังมีการนำเข้าและใช้ในผลิตภัณฑ์บางประเภทอยู่โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่เน้นต้นทุนต่ำมากกว่าความปลอดภัยในระยะยาว ส่งผลให้คนไทยหลายล้านคนยังต้องใช้ชีวิตภายใต้ความเสี่ยงจากแร่ใยหินโดยไม่รู้ตัว

ถึงเวลาเปลี่ยนเพื่ออนาคตของทุกคน

เราจำเป็นต้องร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน วิศวกร ผู้ออกแบบ หรือแม้แต่ผู้บริโภคทั่วไป ต่างมีส่วนสำคัญในการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ปลอดภัย ปราศจากแร่ใยหิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีกลุ่มเปราะบางอยู่จำนวนมาก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และที่อยู่อาศัย

SCG ในฐานะผู้นำด้านวัสดุก่อสร้างของไทย ตระหนักถึงปัญหานี้มาโดยตลอด เรามุ่งมั่นที่จะ ไม่ใช้แร่ใยหินในผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้บริโภคเลือกวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการก่อสร้างไทย และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ปลอดภัยจากภัยเงียบนี้

เพราะวัสดุก่อสร้างที่ปลอดภัย ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือรากฐานของสังคมที่ใส่ใจสุขภาพของทุกคน ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยปลอดแร่ใยหิน เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยของลูกหลานและครอบครัวของเรา

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon