LGT รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกของปี 2568 พร้อมรายได้รวมเติบโต 10%

9

มิติหุ้น – LGT กลุ่มบริษัทชั้นนำที่ดำเนินงานด้านไพรเวทแบงก์กิ้งและการบริหารสินทรัพย์ในระดับนานาชาติ ซึ่งบริหารงานโดยราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ เดินหน้าขยายธุรกิจในระดับสากลอย่างมั่นคง พร้อมรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 รายได้จากการดำเนินงานรวมเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แตะ 1.42 พันล้าน ฟรังก์สวิส ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารต้นทุนอย่างมีวินัย ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 38% อยู่ที่ 240.6 ล้านฟรังก์สวิส ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา LGT มีเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิ 5.9 พันล้าน ฟรังก์สวิส ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มขึ้นเป็น 359.6 พันล้านฟรังก์สวิส ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 แม้ในสถาณการ์ณที่เศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ผันผวน LGT ยังคงเดินหน้าสานต่อแผนการเติบโตในระดับสากล ควบคู่กับการลงทุนด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในระยะยาว

ท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และความผันผวนของตลาดการเงินทั่วโลก LGT ยังคงเดินหน้าสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมเพิ่มขึ้น 10% อยู่ที่ 1.42 พันล้าน ฟรังก์สวิส เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้หลักของบริษัทมาจากการเติบโตของค่าธรรมเนียมและบริการ ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% สะท้อนถึงธุรกรรมของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากดอกเบี้ยสุทธิลดลง 17% อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกรรมการซื้อขายและการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นถึง 35% โดยมีแรงหนุนจากปริมาณธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ในด้านค่าใช้จ่าย ช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ค่าใช้จ่ายด้านธุรกิจและสำนักงานลดลง 1% มาอยู่ที่ 222.8 ล้านฟรังก์สวิส จากการที่โครงการพัฒนาและขยายธุรกิจเริ่มทยอยเข้าสู่ช่วงควบรวมกิจการ ประกอบกับการบริหารต้นทุนอย่างมีวินัย ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่มขึ้น 11% อยู่ที่ 848.4 ล้านฟรังก์สวิส สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และการลงทุนในทรัพยากรบุคคลช่วงสิ้นปี 2567 โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 LGT มีจำนวนพนักงานรวมทั้งสิ้น 6,106 คน เพิ่มขึ้นจาก 6,049 คน ณ สิ้นปี 2567 โดยตัวเลขดังกล่าวนี้รวมถึงพนักงาน 38 คนที่มาจากการเข้าซื้อกิจการ Private Advice ของ Commonwealth Bank of Australia ซึ่งประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 และดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงกลางปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และเงินสำรอง ลดลง 6% เหลือ 64.2 ล้านฟรังก์สวิส

อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ (Cost-Income Ratio) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ของ LGT ปรับลดลงเหลือ 75.7% จาก 78.0% ณ สิ้นปี 2567 ขณะที่กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 240.6 ล้านฟรังก์สวิส เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน LGT ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่หนึ่ง (CET1 Capital Ratio) อยู่ที่ 18.5% ณ ครึ่งแรกของปี 2568 และยังคงรักษาระดับสภาพคล่องให้อยู่ในเกณฑ์สูงได้อย่างต่อเนื่อง

กระแสเงินลงทุนสุทธิในธุรกิจ Private Banking และ Asset Management

LGT มีกระแสเงินทุนไหลเข้าสุทธิ (Organic Net Asset Inflows) รวมทั้งสิ้น 5.9 พันล้านฟรังก์สวิส ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 3.2% โดยได้รับแรงหนุนจากทั้งธุรกิจที่ให้บริการไพรเวทแบงก์กิ้ง (Private Banking) และการบริหารสินทรัพย์ (Asset Management) มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (Assets under Management) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 359.6 พันล้านฟรังก์สวิส ลดลง 2% จาก 367.5 พันล้านฟรังก์สวิส ณ สิ้นปี 2567 โดยการลดลงดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานด้านการลงทุนและภาวะตลาดโดยรวมยังคงส่งผลบวกต่อภาพรวม ทั้งนี้ มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการในช่วงครึ่งปีแรกยังรวมถึงการเข้าซื้อกิจการ Private Advice ของธนาคาร Commonwealth Bank of Australia มูลค่า 2.9 พันล้าน ฟรังก์สวิส ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนในช่วงกลางปีอีกด้วย

แนวโน้มธุรกิจ

แม้จะเผชิญกับความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 LGT ยังคงอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในระยะยาว โดยยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์การขยายธุรกิจในระดับสากล ควบคู่กับการลงทุนด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

LGT ยังคงมุ่งเน้นในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดหลัก พร้อมทั้งขยายสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น ออสเตรเลีย เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น และประเทศไทย ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญต่อผลการดำเนินงานโดยรวมขององค์กร นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าลงทุนในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แผนกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานภายใน ซึ่งในปัจจุบันเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแล้ว

เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาด ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และอิทธิพลของการวิเคราะห์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มขึ้น LGT จึงมีการปรับปรุงโครงสร้างในหน่วยงานด้านการแนะนำการลงทุน โดยได้แต่งตั้ง มิกา คาสเทนโฮลซ์ (Mika Kastenholz) ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และบริการ (Head of Products and Services) และหัวหน้าฝ่ายการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Head of Investment APAC) ให้เป็นหัวหน้าฝ่ายโซลูชันการลงทุนระดับโลก (Global Head of Investment Solutions) และจะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะผู้บริหารระดับสูงของ LGT Private Banking หลังจากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 LGT ได้รับการยอมรับจากเวทีระดับโลกหลายแห่ง โดยได้รับรางวัล Best Pure Play/Boutique 2025 ในงาน Euromoney Global Private Banking Awards 2025 พร้อมคว้ารางวัล Best Private Bank ระดับโลกในสาขา Innovation in Sustainability, Philanthropy Service Offering และ NextGen Support จาก WealthBriefing และในงาน PWM Wealth Tech Awards 2025 LGT ยังได้รับรางวัล Best Private Bank for ESG Technology ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีมาสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) อย่างต่อเนื่อง

เจ้าชายแมกซ์ ฟอน อุนด์ ซู ลิกเตนสไตน์ (H.S.H. Prince Max von und zu Liechtenstein) ประธานกรรมการ LGT กล่าวว่า “แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก LGT ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านรายได้และการบริหารต้นทุนในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เรายังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์การขยายธุรกิจในระดับสากลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง ด้วยการนำเสนอบริการด้านการลงทุนที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานการให้บริการแบบธุรกิจครอบครัว LGT จะยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้และไว้วางใจได้สำหรับลูกค้าทั่วโลก”

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon