หนุนพนักงานคิด-พัฒนางานต่อเนื่อง เอสเอสไอคว้ารางวัลไคเซนระดับทอง

มิติหุ้น – นายนาวา จันทนสุรคน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ พร้อมผู้บริหารและพนักงานร่วมรับรางวัล Thailand Kaizen Award 2025 ประเภท Project Kaizen ระดับ Gold Award จากดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จากผลงาน “เพิ่มคุณภาพการผลิตของกระบวนการรีดปรับผิวเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนด้วย AI SETUP” ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา การประกวดฯดังกล่าว จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรมีความคิดสร้างสรรค์ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน (Process Improvement) ด้วยตนเองได้อย่างต่อเนื่อง เป็นเวทีสำหรับแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับองค์กรและบุคลากรที่มีผลงาน Kaizen ดีเด่น

    เอสเอสไอดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ รวมถึงปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้นำ Kaizen มาประยุกต์ใช้ทั่วทั้งองค์กร เพื่อขจัดความสูญเปล่า เพิ่มศักยภาพด้านการบริหารจัดการ ให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร ซึ่งกำหนดนโยบายเพื่อเป็นแนวทางในการบริหารงาน Kaizen ดังนี้  1. ให้ความรู้ Kaizen แก่พนักงานทั่วทั้งองค์กร 2. สนับสนุนการทำ Kaizen ให้ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กรอย่างต่อเนื่อง 3. สร้างแรงจูงใจให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนางานด้วย Kaizen และ 4. สร้างผลประโยชน์ให้กับองค์กรจากผลงาน Kaizen อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เอสเอสไอมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนระบบการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนให้คงความมีประสิทธิผลสูงสุด และเพิ่มขีดความสามารถด้านการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอ

    สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัล Thailand Kaizen Award 2025 ได้แก่ ผลงาน “เพิ่มคุณภาพการผลิตของกระบวนการรีดปรับผิวเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนด้วย AI SETUP” โดยทีม AI Don’t Know มีสมาชิกประกอบด้วย นายนวังกูลสัมฤทธิ์ นางสาวสุภาพร จันทร์อินทร์ นายกิตติศักดิ์ ปานเล็ก นายเดโชชัย จันทร์ตรี และนางสาวศลาฆนันท์ สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา เป็นผลงานเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อลดการเกิดของเสีย ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานในการผลิตซ้ำ (Re-process) ลงจากร้อยละ 5.37 เหลือร้อยละ 4.75 คิดเป็นต้นทุนที่ลดลงได้ 2.33 ล้านบาท/ปี