CIVIL คว้างานใหม่ มูลค่า 3,178 ล้านบาท ตุนแบ็คล็อก 13,100 ล้านบาท ลุยประมูลเพิ่ม

17

มิติหุ้น – CIVIL คว้างานใหม่และรอลงนามสัญญา มูลค่ารวม 3,178 ล้านบาท ตุน Backlog 13,100 ล้านบาท รุกประมูลงานเมกะโปรเจกต์ภาครัฐ–เอกชน กระจายพอร์ตลดเสี่ยง เร่งส่งมอบตรงเวลา พร้อมคุมต้นทุน รักษาอัตรากำไรเสริมความแข็งแกร่ง ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 รายได้รวม 2,244 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22 ล้านบาท

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2568 แนวโน้มปรับตัวดีขึ้นโดยบริษัทรับงานโครงการใหม่และมีโครงการที่รอลงนามสัญญา มูลค่ารวม 3,178 ล้านบาท แบ่งเป็น งานกลุ่มงานก่อสร้างถนน บำรุงถนน และงานอื่นๆ มูลค่ารวม 1,558 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอลงนามสัญญางานทาง มูลค่ารวมประมาณ 1,620 ล้านบาท ภายในไตรมาส 3 นี้

ขณะเดียวกัน บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายโครงการ และมีแผนเข้าประมูลงานเพิ่มเติมทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2568 จำนวน 13,100 ล้านบาท รับรู้รายได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี (2569-2571)

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยังคงมีโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก อาทิ โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 (ขอนแก่น–หนองคาย), รถไฟความเร็วสูงเฟส 2, สนามบินชุมพรและนครศรีธรรมราช (ส่วนขยาย), ดอนเมืองโทลเวย์ (รังสิต–บางปะอิน), ถนนเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา รวมถึงโครงการ PPP อื่น ๆ ถือเป็นโอกาสการรับงานของบริษัทในระยะต่อไป

“CIVIL มุ่งเน้นขยายพอร์ตงานกระจายความเสี่ยงในโครงการก่อสร้างทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก เพื่อสร้างสมดุลในการรับรู้รายได้และความต่อเนื่องของงาน โดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กที่สามารถรับรู้รายได้รวดเร็ว ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัสดุ พร้อมบริหารอัตรากำไรให้อยู่ในระดับเหมาะสม ควบคู่กับการส่งมอบงานตามเวลา และการดำเนินโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมองหาโอกาสธุรกิจใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว

ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 บริษัทมีรายได้รวม 2,244 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,308 ล้านบาท ถึงแม้ว่ารายได้จะลดลงเล็กน้อย แต่บริษัทยังคงรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับเดิม และ มีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,118 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,278 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท

สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวลดลง เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้การส่งมอบงานและการรับรู้รายได้ในหลายโครงการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด ทั้งนี้ บริษัทตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงได้เร่งดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเป็นระบบในทุกขั้นตอน เพื่อควบคุมความเสี่ยง และผลักดันให้โครงการกลับมาดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้โดยเร็ว และทำให้บริษัทสามารถส่งมอบงานโครงการขนาดเล็กได้สำเร็จแล้วกว่า 9 โครงการ ช่วยชะลอผลกระทบจากรายได้ในโครงการขนาดกลางและใหญ่ที่เลื่อนออกไป โดยสะท้อนถึงกลยุทธ์ของบริษัทในการกระจายความเสี่ยงผ่านการผสมผสานโครงการก่อสร้างในหลากหลายขนาด เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความต่อเนื่องในการรับรู้รายได้

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon