มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (26 ส.ค.) เนื่องจากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนหน้าเป็นปัจจัยพยุงตลาด หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลงในระหว่างวันจากข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปลดลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด นอกจากนี้ ตลาดโดยรวมยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) และหุ้นอิไล ลิลลี (Eli Lilly)
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,418.07 จุด เพิ่มขึ้น 135.60 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,465.94 จุด เพิ่มขึ้น 26.62 จุด หรือ +0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,544.27 จุด เพิ่มขึ้น 94.98 จุด หรือ +0.44%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 15.50 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 3,433.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 67.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ รวมทั้งความคืบหน้าในการเจรจายุติสงครามในยูเครน
• SET Index : เราคาดการณ์กรอบ SET Index ในวันนี้ ณ ระดับ 1,245-1,270 จุด เรามองว่าในวันนี้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังตอบรับปัจจัยบวกการส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปแล้ว ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมา
ในขณะที่ยังมีปัจจัยที่กดดันตลาดอยู่ทั้งในเรื่องของความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอน จากการประธานาธิบดีสหรัฐยังขู่เก็บภาษีประเทศที่คุกคามบริษัทเทคโนโนโลยีของสหรัฐ และ ขู่รีดภาษีจีนเพิ่มเป็น 200%
ด้านปัจจัยภายในประเทศ รอติดตามประเด็นการเมืองวันศุกร์นี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยปมคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
กลยุทธ์การลงทุน เรามองว่าในระยะสั้นจะยังคงมีเม็ดเงินต่างประเทศ หรือ Fund Flow ไหลออกอย่างต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำระมัดระวังแรงขายทำกำไร และทยอยลดการถือครองหุ้นขนาดใหญ่จากความผันผวนจากความกังวลในประเด็นการเมือง โดยเราชอบกลุ่มโรงแรม, กลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค, กลุ่มธนาคาร, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม, กลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่ม การแพทย์
หุ้นแนะนำ
HANA: เรามองว่ากำไรปกติต่อหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้นใน 2H25 จากผลขาดทุนที่ลดลงของ Powermaster และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
(Take profit : 26.00 / Stop loss : 24.90)
GULF: เรามองว่า GULF มีการดำเนินกลยุทธ์การเติบโตตามแผนงานลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน LNG และสามารถผลกำไรจากสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปัจจัยหนุนราคาหุ้นคือการ COD โครงการใหม่ที่เร็วกว่าคาด
(Take profit : 49.00 / Stop loss : 47.75)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon