สร้างความฮือฮาไม่หยุดหย่อนในแต่ละปีสำหรับหุ้นอันดับ1ในกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่โดดเด่นที่สุดในประเทศไทยต้องยกให้ CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ล่าสุดเตรียมประกาศเปิดตัวโครงการใหญ่ เฟสแรกในวันที่ 4 ก.ย. 68 นี้ ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกแห่งใหม่ ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ ศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานแห่งใหม่ พร้อมยกระดับวงการค้าปลีกไทยสู่เวทีโลก โลเคชั่น interchange สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ บนพื้นที่อาคารรวม (GBA) 130,000 ตร.ม. เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับโลก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่าโครงการรวม 46,000 ล้านบาท บนถนนสีลม ซึ่งมีผู้เช่าแล้วกว่า 90% จากแบรนด์ดังระดับโลก

เคลียร์ชัดปมภายในของ DUSIT

อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง DUSIT หรือ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ที่ยังเป็นประเด็นร้อนกันอยู่ในศึกภายในตระกูล ล่าสุดทาง CPN ก็ได้ออกมาชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวว่า

• บริษัทฯ ได้รับโอกาสในการร่วมลงทุน และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับดุสิตธานีในการพัฒนาโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งใช้งบลงทุนมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท โครงการดำเนินการพัฒนาด้วยดีมาโดยตลอด  ซึ่งในส่วนของโรงแรมและอาคารสำนักงานได้เปิดดำเนินการแล้ว  และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค กำลังจะเปิดให้บริการในวันที่ 4 กันยายน 2568 นี้
• ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนาถือหุ้นในดุสิตธานีจำนวน 145,238,320 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 17.09 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของดุสิตตั้งแต่ปี 2561  ซึ่งที่ผ่านมาเซ็นทรัลพัฒนา เคารพในการบริหารงานของผู้ถือหุ้นใหญ่ และสนับสนุนการดำเนินงานด้วยดีมาโดยตลอด

ดังนั้นการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งกรรมการของ  DUSIT ก็เป็นไปตามแนวทางการมีส่วนร่วมตามสัดส่วนการถือหุ้นซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติตามปกติ ในการดูแลเงินลงทุน โดยไม่มีอำนาจในการควบคุมในดุสิตแต่อย่างใด พร้อมทั้งขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการตัดสินใจดำเนินการของ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ DUSIT สัดส่วน 49.74%)

เตรียมเปิด“เซ็นทรัล กระบี่”

ล็อกเป้าเศรษฐีตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตามหากดูถึงแผนเปิดโครงการใหม่ของ CPN ช่วงครึ่งหลังปี 68 ยังมีต่อเนื่อง ศูนย์การค้า “เซ็นทรัล กระบี่” ศูนย์การค้าลำดับที่ 44 ของเซ็นทรัลพัฒนา มิกซ์ยูสแห่งดียวในจังหวัดกระบี่ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยช่วงไฮซีซั่น ตุลาคม 68 ถึงมีนาคม 69  กระบี่เตรียมรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่บินเข้ามากว่า 4,000 เที่ยวบิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มกำลังซื้อสูง และกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรป ตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ช่วงไตรมาส 3 และ 4 บริษัทยังเตรียมเผยโฉมใหม่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า หลังประกาศ Transformation ต้อนรับแบรนด์ดังเต็มพื้นที่ ดึงดูดทราฟฟิกมหาศาลรองรับ catchment ย่านกว่า 3 ล้านคน รวมทั้งเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ที่ทราฟฟิกโตต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง

CPN ดูแลผู้ถือหุ้นปันผลต่อเนื่อง

ซึ่งความน่าสนใจของ CPNไม่ได้มีเพียงเท่านี้ในด้านผลประกอบการล่าสุดงวด Q2/68 ก็ยังทำผลงานได้ดีเยี่ยมพร้อมกวาดรายได้รวม 11,653 ล้านบาท เติบโต 3% และกำไรสุทธิ 3,902 ล้านบาท โต 10% จากปีก่อน (ไม่รวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์)และด้วยอัตรากําไรที่โดดเด่นถึง 32% ไม่เพียงเท่านี้ฐานะทางการเงินก็ยังแข็งแกร่ง อาทิ อัตราภาระหนี้สินต่อทุน (IBD/E) เพียง 0.63 เท่า เท่านั้น พร้อมสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องให้กับผู้ถือหุ้นในปี 2568  ล่าสุด CPN จึงประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทและจำนวนหุ้นไม่เกิน 111 ล้านหุ้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน ช่วงระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม 2568 – 17 กุมภาพันธ์ 2569

นอกจากนี้ CPN ยังเป็นบริษัทที่จ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะการจ่ายปันผลล่าสุด (งวดปี 2567 ) บริษัทจ่ายปันผลหุ้นละ 2.10 บ./หุ้น สูงสุดเป็นประวัติการณ์เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น

นักวิเคราะห์ฟันธง

CPNเติบโตแข็งแกร่ง

มาที่มุมมองนักวิเคราะห์ด้าน บล.กรุงศรี ระบุว่า 3 ปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกของCPN ยังเติบโตได้ดีได้แก่ 1) CPN รักษาอัตราการเช่าพื้นที่ค้าปลีกไว้ราว 90% โดย ก.) เปลี่ยนผู้เช่าหรือแบรนด์ที่ทำผลงานไม่ดีออกและนำผู้เช่ารายใหม่เข้ามาแทน และข.) เปิดโอกาสให้ผู้เช่าที่ประสบความสำเร็จในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งขยายไปยังศูนย์การค้าใหม่ 2) การจัดงานอีเวนต์เพิ่มขึ้นทำให้มีลูกค้าเข้ามามากขึ้นและช่วยเพิ่มการสร้างรายได้จากพื้นที่ส่วนกลางและประการสุดท้าย ค.) การทำงานร่วมกับผู้เช่า(การวิเคราะห์ข้อมูลและจัดแคมเปญการตลาด) เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ

P/E ต่ำสุดในกลุ่ม

นอกจากนี้ CPN ยังมีความน่าสนใจคือ P/E ปี 68/69 เท่ากับ13.4 /12.3 เท่าซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่มค้าปลีกแม้บริษัทจะทำผลงานดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมทั้งในด้านการเติบโตของรายได้ค่าเช่าสาขาเดิมและROE โดยที่รายได้ค่าเช่าร้านค้าเดิมของCPN พร้อมคาดการเติบโตรายได้ค่าเช่าสาขาเดิมของช่วงไตรมาส3 จะเกิน 4% หลังจากที่ปริมาณลูกค้า(traffic) ลดลง2% YoY ในเดือนเม.ย.68 จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพม่าเมื่อ 28 มี.ค. มีผลกระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น ส่วนไตรมาส4 กำไรจะแข็งแกร่งอยู่ที่ราว5.2 พันล้านบาท(+23% YoY, +24% QoQ) หนุนกำไรทั้งปี 68 เติบโตโดดเด่นที่ 17,994 ลบ.

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon