TISCO คาดดัชนีหุ้นไทยเดือน ก.ย.ผันผวน  ชี้เป็นจังหวะ “ซื้อ” หุ้นรับดอกเบี้ยขาลง – หุ้นที่มีโอกาสปรับกำไรขึ้น 

21
มิติหุ้น – บล.ทิสโก้เปิดสถิติหุ้นทั่วโลกมักปรับตัวลดลงในเดือนกันยายน ประกอบกับการเมืองในประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูงจากการหารัฐบาลใหม่บริหารประเทศ ชี้เป็นจังหวะ “ซื้อ” รับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยขาลง ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์-หุ้นโรงไฟฟ้า-หุ้นปันผล และหุ้นที่กำไรช่วงครึ่งปีหลังจะออกมาดีกว่าครึ่งปีแรก รวมทั้งหุ้นที่มีโอกาสปรับกำไรขึ้น 
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า  จากการรวบรวมสถิติโดย บล.ทิสโก้พบว่าในเดือนกันยายน ตลาดหุ้นทั่วโลกมักปรับตัวลดลง ประกอบกับราคาหุ้นสหรัฐฯ ค่อนข้างมีราคาแพง การเมืองไทยยังคงมีความไม่แน่นอนสูง และภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาส 2/2568 ที่ไม่รวมกำไรพิเศษมีความเปราะบางจากรายได้ที่หดตัวสองไตรมาสติด และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี นอกจากนี้หลายภาคส่วนธุรกิจและบริษัทต่าง ๆ คาดการณ์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจค่อนข้างท้าทายในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้หลังประกาศผลประกอบการ Q2 แล้ว เรายังไม่เห็นสัญญาณการปรับประมาณการกำไรของตลาดขึ้นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้มองว่าความผันผวนของราคาหุ้นเดือนนี้เป็นโอกาสเลือกซื้อ (Selective BUY) เน้นการตั้งรับ  เพราะในช่วงที่เหลือของปีอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐฯ มีโอกาสปรับลดลงเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์-หุ้นโรงไฟฟ้า-หุ้นปันผล ผสานกับหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก
หุ้นเด่นในเดือนกันยายน บล.ทิสโก้ แนะนำ ADVANC, CK, EGCO, GPSC, GULF, LH และ MTC  ด้านแนวรับสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่ 1,230 จุด แนวรับต่อไปอยู่ที่ 1,200 – 1,220 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1190 จุด และแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,270 จุด และ 1,280-1,285 จุด ตามลำดับ  ด้านทางเลือกการลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยผ่าน DR บล.ทิสโก้เลือก NOVOB80 และ TRIPCOM80 เป็น Top Picks ประจำเดือน
นายอภิชาติกล่าวว่า สำหรับมุมมองหุ้นไทยและหุ้นทั่วโลกในเดือนกันยายนคาดว่าจะมีความผันผวน โดยประเด็นด้านการเมืองในประเทศมีการเปลี่ยนนายกฯ และรัฐมนตรีทั้งคณะตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อจากนี้รอสภาผู้แทนราษฎรนัดวันโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ หากเกิดขึ้นภายในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน คาดจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ แต่หากล่วงเลยข้ามสัปดาห์ คาดจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีความล่าช้าและ/หรืออาจเกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง จะสร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้น
ขณะที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่แม้จะมีความหวังการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดือนสิงหาคมเดินหน้าขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน อีกทั้ง TISCO ESU ยังคาดว่าการประชุม FED เดือนนี้จะลดดอกเบี้ยลง 0.25% รวมทั้งคาดจะลดอีก 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่บล.ทิสโก้ไม่ได้มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และห่วงการปรับฐานอาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ เนื่องจากระดับการประเมินมูลค่าหุ้นที่ค่อนข้างตึงตัวมาก คิดเป็น Fwd. PER ปี 26F ที่สูงเกือบ 22 เท่า ขณะที่ Fwd. Earning Yield Gap ปัจจุบันลดลงจนแทบเป็นศูนย์
เพราะฉะนั้น ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยน่าจะสะท้อนในราคาหุ้นปัจจุบันมากพอสมควรแล้ว แต่ในขณะเดียวกันตลาดอาจยังไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากการขึ้นภาษีศุลกากรมากนัก ทำให้การลดดอกเบี้ยของ FED อาจไม่เร็วอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้และอาจสร้างความผันผวนแก่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ง่าย
นอกจากนี้ เดือนกันยายนยังเป็นช่วงฤดูกาลที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดของปี โดยเฉลี่ยติดลบประมาณ -1.1% เทียบผลตอบแทนในเดือนอื่น ๆ ที่เป็นบวกเฉลี่ย +0.7% ปรากฎการณ์นี้ไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เท่านั้น แต่จากการศึกษาของเราในรอบ 10 ปีที่ผ่านมายังรวมถึงตลาดหุ้นอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ดังนั้นนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon