CGSI : Investment Strategy

12

มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (9 ก.ย.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานในช่วงเวลา 12 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของตลาดแรงงานและเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,711.34 จุด เพิ่มขึ้น 196.39 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,512.61 จุด เพิ่มขึ้น 17.46 จุด หรือ +0.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,879.49 จุด เพิ่มขึ้น 80.79 จุด หรือ +0.37%

• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 3,682.20 ดอลลาร์/ออนซ์โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 66.39 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกองทัพอิสราเอลได้ทำการโจมตีผู้นำกลุ่มฮามาสในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอิสราเอลกำลังขยายปฏิบัติการทางทหารในตะวันออกกลาง

• SET Index : เราคาดการณ์กรอบ SET Index ในวันนี้ ณ ระดับ 1,260-1,285 จุด เรามองว่าดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัว sideway up อยู่ในกรอบ ภายหลังเริ่มเห็นความชัดเจนจากโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) มากขึ้น โดยตลาดยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาในระยะถัดไป

กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำลดน้ำหนักการลงทุนที่ดัชนีระดับ 1,270-1,285 จุด เนื่องจากเรามองว่าภาพรวมดัชนี ณ ระดับดังกล่าวมีแนวโน้มเผชิญแรงขายทำกำไรกดดันหลังจากรับทราบความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศไปแล้ว และ เราแนะนำ Selective buy ในหุ้นกลุ่ม Defensive มากขึ้น โดยหุ้นเด่นของเรา ได้แก่ ADVANC, BDMS, CPN, ERW, GULF, KBANK, MINT, MTC, PR9 และ TRUE

ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม สัปดาห์นี้รอติดตามการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.ในวันพุธนี้ และจากนั้นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ในวันพฤหัสบดีของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการคาดการณ์แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารดลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมสัปดาห์หน้า

หุ้นแนะนำ
KTB: อัตราการเติบโตของสินเชื่อในปี 2025-26 ของ KTB น่าจะมี upside จากสินเชื่อรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ มากไปกว่านั้น มาตรการคนละครึ่งเฟสใหม่ ยังคงใช้แอพพลิเคชั่นเดิม หรือ แอพ “เป๋าตัง”

(Take profit : 26.75 / Stop loss : 25.50)

CPALL: เรามองว่า แม้ CPALL จะมีความเสี่ยงจากโครงการคนละครึ่งมากที่สุด แต่ราคาหุ้นที่อาจปรับตัวลงจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อในราคาที่น่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากเราเชื่อว่าโครงการนี้เป็นเพียงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น

(Take profit : 49.00 / Stop loss : 47.75)

#CGSInternational
#CGSI

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon