CGSI : กลุ่มน้ำมันและก๊าซของไทย หมดยุคต้นทุนก๊าซสูงด้วย LNG ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น Neutral จาก Underweight และปรับเพิ่มคำแนะนำ PTT เป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ”

43

มิติหุ้น – ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าอุปทานก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 7% yoy ในปี 69 จากการเปิดโครงการใหม่ในสหรัฐ, แคนาดา และกาตาร์ ซึ่งสูงกว่าอุปสงค์ที่คาดจะเติบโต 2% ในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ฯมองว่าอาจมีอุปทานเพิ่มเติมจากยอดส่งออกก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซและโครงการ Arctic 2 ของรัสเซีย โดยขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะส่งผลให้ risk premium ของราคาก๊าซ TTF (Title Transfer Facility) ของเนเธอร์แลนด์หมดไป

นอกจากนี้ เชื่อว่าการที่ตลาดก๊าซของยุโรปและเอเชียเชื่อมโยงกัน และจีนมีความต้องการนำเข้าก๊าซน้อยลงน่าจะทำให้ราคาก๊าซ LNG ในตลาด JKM (Japan-Korean Market) ปรับตัวลงจาก 12.7 เหรียญสหรัฐ/mmbtu ในปี 68 เหลือ 11.25 เหรียญสหรัฐ/mmbtu ในปี 69 และ 10.5 เหรียญสหรัฐ/mmbtu ในปี 70 ขณะเดียวกันคาดว่าราคาก๊าซ Henry Hub ของสหรัฐฯจะปรับตัวขึ้นในปี 69-70 จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในประเทศและ takeaway capacity (ความสามารถในการลำเลียงผ่านท่อส่งก๊าซ) ที่เพิ่มขึ้น

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า การผลิตก๊าซในอ่าวไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หลังจาก PTTEP เข้าร่วมลงทุนในแปลง A-18 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJDA) โดยหากเปรียบเทียบกับผู้ดำเนินการก่อนหน้านี้ที่เชื่อว่าน่าจะต้องการให้อัตราการผลิตค่อยๆลดลงจนสิ้นสุดสัญญาในปี 72 PTTEP มีแผนใช้งบลงทุนที่ชัดเจน เพื่อให้การผลิตทรงตัวอยู่ที่ 400-500mmscfd ช่วง 10 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังเห็นความพยายามของหน่วยงานรัฐที่จะลดการพึ่งพา LNG นำเข้าราคาแพงด้วยการขยายเวลาปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินจากปี 68 เป็นปี 74

ดังนั้น ฝ่ายวิเคราะห์ฯ จึงปรับลดสัดส่วน LNG นำเข้าราคาแพงในประมาณการอุปทานก๊าซธรรมชาติของไทยจาก 33-35% เป็น 29-31% ในปี 68-70 ซึ่งการที่ก๊าซราคาถูกจากอ่าวไทยมีสัดส่วนสูงขึ้น ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ฯปรับประมาณการต้นทุน pool gas จาก 296 บาท/mmbtu เป็น 287 บาท/mmbtu ในปี 68, จาก 282 บาท/mmbtu เป็น 275 บาท/mmbtu ในปี 69 และจาก 278 บาท/mmbtu เป็น 267 บาท/mmbtu ในปี 70

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับเพิ่มคำแนะนำกลุ่มน้ำมันและก๊าซของไทยจาก Underweight เป็น Neutral เพราะการที่ราคาก๊าซในตลาดโลกปรับตัวลง จะช่วยลดแรงกดดันด้านต้นทุน PTT ในปี 69-70 จึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” นอกจากนี้ ธุรกิจโรงแยกก๊าซของ PTT น่าจะมี EBITDA ผันผวนน้อยลงหลังมีการปรับโครงสร้างราคา pool gas ซึ่งรอการอนุมัติจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน

ขณะที่ยังมีมุมมองเชิงลบต่อกลุ่มปิโตรเคมี โดยเฉพาะ PTTGC แม้ว่าประเทศไทยจะทำข้อตกลงนำเข้าอีเทนจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น เพราะไม่สามารถประหยัดภาษีเพิ่มเติม อีกทั้งราคาอีเทนอาจพุ่งสูงขึ้นตามราคาก๊าซ Henry Hub ช่วง 2-3 ปีข้างหน้า สำหรับอุตสาหกรรมสาธารณูปโภค ราคาก๊าซที่ตกต่ำจะเป็นผลดีกับ BGRIM (ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ”) และบริษัทย่อยในธุรกิจไฟฟ้าอย่าง GPSC ส่วนราคาก๊าซ Henry Hub ที่สูงขึ้นจะช่วยหนุน โครงการ Jackson ในสหรัฐของ GULF

ทั้งนี้ กลุ่มน้ำมันและก๊าซจะมี upside risk หากความต้องการน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ส่วน downside risk คือการที่ราคาก๊าซโลกพุ่งสูงขึ้นกะทันหัน จากความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon