มิติหุ้น – นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้สภาวะตลาดทุนทั่วโลกผันผวนและกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างหุ้นและตราสารหนี้ ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุน โดยเฉพาะสินทรัพย์สิทธิรายได้ (Royalties) ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์เกิดใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในระดับโลก โดย SCBAM ถือเป็นผู้จัดการกองทุนรายแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้าถึงสินทรัพย์ประเภทนี้ได้อย่างเป็นทางการ โดย Royalties คือ สิทธิในการรับรายได้ที่มาจากสินทรัพย์อ้างอิงซึ่งครอบคลุมทรัพย์สินทางปัญญาต่าง ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาวตลอดอายุสัญญาการอนุญาตให้ใช้สิทธิ เช่น สิทธิบัตรยา เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์เพลง ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬา หรือเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงสิทธิในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ก๊าซธรรมชาติ แร่ โลหะ หรือแม้กระทั่งคาร์บอนเครดิต เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน Royalties มีมูลค่าตลาดมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยข้อได้เปรียบหลักของการลงทุนสินทรัพย์ประเภทนี้ คือ ความสามารถในการสร้างรายได้สม่ำเสมอจากส่วนแบ่งรายได้ของสินทรัพย์ที่อ้างอิง และมักปรับตัวตามอัตราเงินเฟ้อจึงสามารถช่วยรักษามูลค่าของเงินลงทุนได้ อีกทั้ง ยังมีความสัมพันธ์ต่ำกับสินทรัพย์ดั้งเดิม เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรือแม้แต่สินทรัพย์ทางเลือกอย่าง Private Equity และ Private Credit จึงสามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ SCBAM จึงได้เปิดตัวกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Royalties Opportunities (ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย) หรือ SCBROYALTY กองทุนแรกในเอเชียแปซิฟิกที่มีนโยบายเน้นลงทุนในสินทรัพย์ Royalties โดยเฉพาะ เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษได้เข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งจะช่วยเสริมความหลากหลายและลดความเสี่ยงให้แก่พอร์ตการลงทุน พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว เปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 15 กันยายน 2568 – 24 กันยายน 2568 ด้วยมูลค่าการลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำเพียง 50,000 บาท
กองทุน SCBROYALTY เป็นกองทุนรวมประเภท Feeder Fund ที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน (Complex Fund) เน้นลงทุนในสินทรัพย์ Royalties ผ่านกองทุนหลัก Partners Group Evergreen Royalties Opportunities เพื่อโอกาสสร้างกระแสรายได้ในระยะยาวที่คาดการณ์ได้อย่างมีเสถียรภาพจากสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหลากหลายประเภท ผ่านกลยุทธ์การลงทุน “Cross-Sector” ที่แตกต่าง กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ Royalties หลากหลายธุรกิจ ทั้งกลุ่มยาและการรักษาโรค ดนตรี ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน กีฬา และแบรนด์สินค้า ช่วยลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตจากอุปสรรคเฉพาะตัวของแต่ละกลุ่มธุรกิจ และสร้างโอกาสการรับรายได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่ผูกกับอุตสาหกรรมเดียว พร้อมสภาพคล่องในการลงทุนที่สามารถลงทุนได้ทุกเดือนและขายคืนได้ทุกไตรมาส SCBROYALTY จึงไม่เพียงเป็นกองทุนแรกในภูมิภาคที่เน้นลงทุนใน Royalties แบบ Cross-Sector เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสพิเศษสำหรับนักลงทุนไทยในการเข้าถึงสินทรัพย์ที่เคยจำกัดอยู่เพียงกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ทั้งนี้ กองทุนหลักบริหารโดย Partners Group บริษัทจัดการสินทรัพย์ทางเลือกระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ที่มีความเชี่ยวชาญใน Private Markets มานานกว่า 25 ปี และเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการลงทุนใน Royalties จึงมีความเข้าใจลึกซึ้งทั้งในเชิงธุรกิจทรัพย์สินทางปัญญา สามารถออกแบบโครงสร้างการลงทุนที่เหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจโลกและตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการรายได้ระยะยาวที่มีศักยภาพเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ Partners Group ยังเป็นบริษัท Global Private Market รายแรกที่ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) อีกด้วย
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กองทุน SCBROYALTY ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ SCBAM ในการเปิดมิติใหม่ของการลงทุนให้กับนักลงทุนไทย ผ่านการเข้าถึงสินทรัพย์ที่แตกต่างจากเดิม แต่มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว ด้วยโครงสร้างการลงทุนที่ทันสมัย ทีมบริหารที่มีความเชี่ยวชาญ และความมุ่งมั่นในการคัดสรรโอกาสการลงทุนทั่วโลก เราเชื่อมั่นว่ากองทุนนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีคุณค่าสำหรับการเสริมสมดุลให้พอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะในส่วนการลงทุน Private Asset ในยุคที่ความผันผวนยังคงเป็นความท้าทายหลักของตลาดโลก”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon