ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานของรัสเซีย
- ยูเครนใช้โดรนโจมตีท่าเรือ Primorsk (1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซียเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เรือขนส่งน้ำมันดิบ Aframax 2 ลำ (ขนาดประมาณ 7 แสนบาร์เรล) ติดธงสัญชาติสาธารณรัฐเซเชลส์ (เรือ Kusto ดำเนินการโดยบริษัท Solstice เรือ Cai Yun ดำเนินการโดยบริษัท Acceronix) และสถานีสูบน้ำมันเกิดเพลิงไหม้ แม้สามารถควบคุมเพลิงได้แต่การสูบถ่ายน้ำมันหยุดชั่วคราวและยังไม่มีกำหนดกลับมาดำเนินการ
- ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump กล่าวว่าสหรัฐฯ พร้อมออกมาตรการคว่ำบาตรพลังงานเพิ่มเติมต่อรัสเซีย โดยมีเงื่อนไขว่าสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization: NATO) ทุกประเทศต้องหยุดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียและกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและอินเดีย สูงถึง 100% ปัจจุบัน ตุรกี ฮังการี และสโลวาเกียเป็นสมาชิก NATO ที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยองค์กรวิจัยอิสระ Centre for Research on Energy and Clean Air (CREA) รายงานตุรกีนำเข้าน้ำมัน Urals จากรัสเซียเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและอินเดีย
- 10 ก.ย. 68 ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission: EC) นาง Ursula von der Leyen ยืนยันร่วมมือกับพันธมิตรโลกในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรแต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายกำหนด โดยกรรมาธิการด้านพลังงานของสหภาพยุโรป (European Union: EU) นาย Dan Jorgensen กล่าวว่า EU จะคงกำหนดการเดิมในการหยุดนำเข้าน้ำมันรัสเซียในปี 2571
- หน่วยงานศุลกากรของจีน (General Administration of Customs: GAC) รายงานจีนนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. 68 เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 11.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อเติมน้ำมันดิบเข้าคลังสำรองอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเทคโนโลยีด้านภาพถ่ายดาวเทียมของสหรัฐฯ Ursa Space ประเมินปริมาณสำรองน้ำมันดิบของจีน ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 1,230 ล้านบาร์เรล สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
