Pi Daily ตลาดหุ้นวันนี้จะทรงตัวเพราะรอติดตามประชุม FED คืนนี้ (ทราบผลพรุ่งนี้เช้าเวลาประเทศไทย) ตลาดคาดลดดอกเบี้ยแต่ในอีกนัยหนึ่งหุ้นทั่วโลกก็ Price In แล้ว จึงระวังการ Sell On Fact

57
มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 125 จุด (-0.27%) การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเพราะกำลังเข้าใกล้ประชุม FED ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.5% ได้แรงหนุนจากอุปทานในรัสเซียอาจหยุดชะงัก
เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง YTD (14 ก.ย.) สะสมที่ 22.95 ล้านราย (-7.1%YoY) โดยพบว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียกลับขึ้นมาเป็นอันดับแรกที่ 3.27 ล้านรายและทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงมาเป็นอันดับ 2 ที่ 3.23 ล้านราย หากดูเป็นรายสัปดาห์จะพบว่าอยู่ที่ 5.65 แสนราย (+11%WoW) นำโดยนักท่องเที่ยวมาเลเซีย (+67%WoW) แต่จีนทรงตัวจากสัปดาห์ก่อน (-0.9%WoW) สำหรับสหรัฐฯ เมื่อคืนรายงานยอดค้าปลีกพบว่าขยายตัว 0.6%MoM มากกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ ที่จะขยายตัว 0.2%MoM ในรายละเอียดภายในพบว่าขยายตัวในทุกๆสินค้ายกเว้นเพียงเฟอร์นิเจอร์และการแพทย์ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังไม่ได้ให้น้ำหนักกับตัวเลขค้าปลีกที่ดีกว่าคาดเท่าใดนักเพราะยังเห็นการปรับลงของ US Bond Yield และ Dollar Index อ่อนค่า
โดยคืนนี้รอติดตามผลประชุม FED CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 96% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และปรับลงต่อเนื่องอีก 2 ครั้งจนถึงเดือน ธ.ค. นอกจากทิศทางดอกเบี้ยแล้วรอติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED และประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆรวมถึง Dot Plot ทั้งนี้หากพิจารณาเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะพบว่ายังค่อนข้างสูงอยู่ในระดับ 3% (เป้าหมาย FED 2%) จึงต้องระมัดระวังว่าตลาดมีโอกาสเผชิญความผิดหวังจาก FED และในอีกมุมมองหนึ่งก็คือตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นมาคาดหวังไปพอสมควรแล้ว ผลประชุมคืนนี้จึงมองเป็นกลางถึงลบต่อทิศทางตลาดในวันพรุ่งนี้ ยกเว้นแต่ว่า FED จะผ่อนคลายมากกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้ แต่ก็เป็นไปได้ยาก นอกเหนือติดตามประชุม FED แล้วรอติดตามการนำคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้า หากเสร็จสิ้นก็เชื่อว่าจะเตรียมแถลงนโยบาย (มองเป็นบวกกับตลาด)
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวกรอบ 1295 – 1320 ตลาดมีแนวโน้มพักตัวเพื่อรอดูผลประชุม FED ในคืนนี้ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นมา 5.1% จากจุดต่ำสุดเดิม ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนนักลงทุนระยะสั้นอาจมองเป็นจังหวะแบ่งทำกำไรบางส่วนเพิ่มการถือครองเงินสดด้วย Valuation ที่เริ่มสูงและ Price In ข่าวดีไปพอสมควร อย่างไรก็ตามหากรับความเสี่ยงและเน้น Trading รายวันเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุน อาทิ การเงิน (MTC) อสังหาฯ (AP, SPALI) ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL) พร้อมแนะรอสะสมหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปันผลสูง (SCB) แม้อาจกังวลกับดอกเบี้ยที่ปรับลงแต่เชื่อว่าผลกระทบเชิงกำไรจะจำกัด
COCOCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.70 บาท)
คาดว่าอัตรากำไรได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง 2Q25 ราคามะพร้าวปรับตัวลดลง MoM ต่อเนื่องหลังทำพีคในเดือน ธ.ค. 2024 ที่ 22.36 บาท/ผล เป็น 16.43 บาท/ผล ในเดือน ส.ค. 2025 ทำให้เราคาดกำไร 3Q25 ฟื้นตัวเด่น QoQ ขึ้นแตะระดับ 150-160 ล้านบาทต่อไตรมาส จากอัตรากำไรที่ดีขึ้นขยายตัว QoQ ตามต้นทุนที่ลดลง
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท)
คาดผลประกอบการใน 2H25 เติบโตสูงกว่าใน 1H25 เนื่องจากมีแนวโน้มได้รับผลบวกจากภาระดอกเบี้ยลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ใน 4Q25 โรงแรมหลักในไทยที่ปิดปรับปรุงจะกลับมาเริ่มเปิดให้บริการช่วงเดือนพฤศจิกายน ประกอบกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศมัลดีฟส์ใหม่ทะยอยหนุน Occupancy เติบโตแข็งแกร่ง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon