LION จากสินค้าสู่พันธสัญญาสิ่งแวดล้อม “ไลอ้อน ประเทศไทย” ยกระดับสินค้านวัตกรรม คว้าฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นหรือฉลากลดโลกร้อน เดินหน้าสู่แบรนด์รักษ์โลก

14

มิติหุ้น – ไลอ้อน (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 56 ปี ด้วยหลักการบริหาร “ธุรกิจคู่คุณธรรม” ได้รับฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นหรือฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ผ่านผลิตภัณฑ์กลุ่ม Lion Hygienic อันเป็นบทพิสูจน์ชัดเจนว่า “องค์กรไม่ได้มองแค่การขายสินค้า แต่กำลังขับเคลื่อนทั้งอุตสาหกรรมไปสู่ความยั่งยืน”

จากการผลิตสู่การแก้ปัญหาสังคม

ดร. กิตติวัตร โสมวดี รองผู้จัดการบริหารการผลิต บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงเส้นทางที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2012 ที่บริษัทเริ่มประเมิน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Products)” สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานอย่างเป็นระบบและค่อย ๆ ปรับทุกกระบวนการผลิต “การดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสังคมและธุรกิจของเรา การได้รับฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Reduction)  หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ฉลากลดโลกร้อน เป็นเพียงผลลัพธ์ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ใช้พลังงานและวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คาร์บอนลดลงจริงในทุกขั้นตอน อย่างต่อเนื่อง”

ผลลัพธ์คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานของไลอ้อนสามารถลดการปล่อยคาร์บอนฯตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 20% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เพียง 2% เท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงปี 2021–2024 ที่มีการปรับสูตรและเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ทำให้ตัวเลขการลดคาร์บอนสูงขึ้นต่อเนื่อง

“ถุงเติม” = ลดคาร์บอน

          อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่องค์กรผลักดันมาอย่างจริงจังคือ Refill Pack หรือ “ถุงเติม” ซึ่งช่วยลดการใช้พลาสติกได้เฉลี่ย 5–10% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

ปัจจุบัน ไลอ้อนมีผลิตภัณฑ์กว่า 17 SKUs ที่ได้รับฉลากลดโลกร้อน อาทิ ไลปอนเอฟ สูตรอนามัย ไลปอนเอฟ สูตรมะกรูด ไลปอนเอฟ เจแปนนีสพีช และไลปอน กลิ่นชามะนาว เป็นต้น ในรูปแบบ “ถุงเติมรีฟิล” และยังเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2014 จนถึง ปัจจุบัน

ไม่ใช่แค่เกียรติยศ แต่คือพันธสัญญา

“รางวัลและการรับรองฉลากลดโลกร้อนไม่ใช่เพียงเกียรติยศ แต่เป็นการสะท้อนความรับผิดชอบที่จับต้องได้ ตัวเลขที่เราลดคาร์บอนได้จริงราว 20% สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero  ปี 2050 ซึ่งเป็นพันธสัญญาระดับโลกที่ภาคธุรกิจต้องร่วมกันผลักดัน อันเป็นเป้าหมายตามพันธสัญญาของไลอ้อน”  นายอำนาจ ศรีตระการนนท์ ผู้จัดการแบรนด์ไลปอนเอฟ กล่าวเสริม

ผู้บริโภคยุคใหม่เลือก “แบรนด์รักษ์โลก”

ข้อมูลตลาดบ่งชี้ว่า ผู้บริโภค โดยเฉพาะเจเนอเรชันใหม่ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สินค้าคาร์บอนต่ำจึงถูกมองว่าเป็น “คุณค่าที่เพิ่มจากราคาและคุณภาพ” แม้ยอดขายกลุ่มสินค้าฉลากลดโลกร้อนจะไม่ได้โตพุ่งหวือหวา แต่ยังคงครองอันดับหนึ่งของสัดส่วนการขายของบริษัท และได้รับการตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ไลอ้อนยังเดินหน้าจับมือคู่ค้า เช่น Lotus’s, Makro, CPALL, TOPs, The Mall Group ฯลฯ รวมถึงโรงแรมชั้นนำ เพื่อกระจายสินค้าคาร์บอนต่ำสู่ผู้บริโภค พร้อมทำแคมเปญร่วมกับห้างค้าปลีก กิจกรรม PR และการสื่อสารออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้าง

ก้าวต่อไป: สื่อสารตรงใจผู้บริโภค

เป้าหมายต่อไปของไลอ้อนคือ การทำให้ผู้บริโภครับรู้ว่า “ทุกครั้งที่เลือกซื้อสินค้าที่มี ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือ ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์  =  กำลังช่วยลดคาร์บอน ช่วยลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน” รวมถึงเตรียมยื่นขอฉลากลดโลกร้อนสำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ต่อไป

การได้รับ “ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือ ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์” ของไลอ้อน ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์บ่งบอกว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลงตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ แต่คือการยืนยันกลยุทธ์ความยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้ง การผลิต นวัตกรรม การตลาด และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค

นี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า องค์กรเอกชนไทยสามารถเป็นพลังสำคัญในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลก และยังเดินหน้าเติบโตอย่างมั่นคงบนเส้นทาง Sustainable Growth

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon