TTB ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.066 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงที่ 60% โดยยังคงเดินหน้าตามแผนบริหารส่วนทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนรวมให้กับผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน

68

มิติหุ้น – ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนของปี 2568 ในอัตรา 0.066 บาทต่อหุ้น โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล) ในวันที่ 6 ตุลาคม 2568 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 นี้

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ และการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ส่งผลให้ทีทีบีมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีความพร้อมในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ พันธกิจสำคัญของทีทีบีในปี 2568 ยังคงเน้นย้ำ “ปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้” ครอบคลุมลูกหนี้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้กลุ่มเปราะบางหรือลูกหนี้ที่มีประวัติดี ด้านพันธกิจสำหรับผู้ถือหุ้น ยังคงเดินหน้าตามแผน “การบริหารส่วนทุน” หรือ Capital management เพื่อสร้างมูลค่าและเพิ่มผลตอบแทนโดยรวม (Total Return) ให้กับผู้ถือหุ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ภายใต้แผนการบริหารส่วนทุนดังกล่าว ทีทีบีประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.066 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 60% จากผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2568 รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 6.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายในการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงแม้ภาคธุรกิจและภาคธนาคารจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวก็ตาม

นอกจากนี้ การที่ธนาคารสามารถปรับเพิ่ม Dividend Payout Ratio ขึ้นจาก 30% – 35% มาอยู่ที่ 60% ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จจากกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจหลังการรวมกิจการ ด้านอัตราผลตอบแทนเงินปันผล หรือ Dividend Yield ก็เพิ่มขึ้นจาก 2% – 3% ในอดีตมาอยู่ที่ 6% – 7% ในปัจจุบันส่งผลให้ทีทีบีเป็นหนึ่งในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินจากปันผลสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของหุ้นกลุ่มธนาคาร

และอีก 2 โครงการที่ดำเนินการได้ตามแผน Capital management ได้แก่ โครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี (2568 – 2570) วงเงินรวม 21,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุน ROE ในระยะยาวแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนในตลาดทุนที่มีต่อราคาหุ้นและมูลค่าของผู้ถือหุ้นได้อีกด้วย และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารเสร็จสิ้นการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นไปตามแผนการสร้างการเติบโตจากภายนอก (Inorganic growth) เพื่อเพิ่มศักยภาพและมูลค่าทางธุรกิจในระยะยาว

สำหรับช่วงที่เหลือของปี ทีทีบีจะยังคงเน้นย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยเราจะยังคงมุ่งมั่นต่อการดำเนินการตามแผน Capital management และตั้งเป้าหมายในการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงต่อไป รวมทั้งเน้นย้ำการบริหารจัดการโครงการซื้อหุ้นคืนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อหุ้นคืนจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon