มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันอังคาร (23 ก.ย.) หลังจากนักลงทุนประเมินถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งระบุว่า ในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้านั้น เฟดจำเป็นต้องพิจารณาทั้งในเรื่องความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง
สถานการณ์ที่พาวเวลกล่าวถึงนั้น สอดคล้องกับภาวะ stagflation ซึ่งหมายถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่เกิดขึ้นพร้อมกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่รุนแรงเท่ากับที่สหรัฐฯ เคยเผชิญในช่วงทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 แต่ก็ยังเป็นโจทย์ที่ท้าทายต่อการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด
นอกจากนี้ พาวเวลยังกล่าวว่า ราคาสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ กำลังอยู่ในระดับสูง โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกัน 3 วัน
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,292.78 จุด ลดลง 88.76 จุด หรือ -0.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,656.92 จุด ลดลง 36.83 จุด หรือ -0.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,573.47 จุด ลดลง 215.50 จุด หรือ -0.95%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ ภาพดังกล่าวสอดคล้องกับราคาทองคำหลังสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 40.6 ดอลลาร์ หรือ 1.08% ปิดที่ 3,815.7 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 67.63 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากการส่งออกน้ำมันผ่านท่อส่งจากภูมิภาคเคอร์ดิสถานของอิรักไปยังตุรกียังไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้ในวันอังคาร เนื่องจากผู้ผลิตรายสำคัญสองรายเรียกร้องการค้ำประกันการชำระหนี้ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลกลางอิรักและรัฐบาลภูมิภาคเคอร์ดิสถานได้ทำข้อตกลงร่วมกับกลุ่มบริษัทน้ำมัน โดยมีเป้าหมายที่จะกลับมาส่งออกน้ำมันประมาณ 230,000 บาร์เรล/วันจากเคอร์ดิสถานสู่ตลาดโลกผ่านทางตุรกี ซึ่งหยุดชะงักไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566
• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index บริเวณ 1,260-1,285 จุดหลังดัชนีพักฐานแรงเมื่อวานที่ผ่านมา และ คำสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สร้างแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง
วันนี้จับตารายงาน ตัวเลขส่งออก และ นำเข้า ของ ไทย วันนี้ โดย ตลาดคาดเติบโต 6.9% yoy และ 9.3% yoy ตามลำดับ
หุ้นแนะนำ
BDMS:
BDMS ประมาณการว่าสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอาจทำให้รายได้เติบโตลดลง 1% pt ในปี FY25 และ เราคาดว่า BDMS จะทำกำไรสุทธิ 4,206 ล้านบาทใน 3Q25 (-1% yoy, +21% qoq)
(Take profit : 20.90 / Stop loss : 20.40)
ADVANC:
เราคาดว่ารายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเติบโตจากการใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้น
เราปรับประมาณการ EPS ขึ้น 3.6-5.5% ในปี FY25-27
(Take profit : 292.00 / Stop loss : 286.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon