Krungthai COMPASS กรุงไทยชี้โอกาสใช้ FTA รับมือสงครามการค้า ช่วยประหยัดภาษีเพิ่มกว่า 2 แสนล้านบาท

20

มิติหุ้น – ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพทางการค้าและการลงทุนของไทย รวมทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า คาดภาคการส่งออกและภาคการนำเข้าของไทยยังสามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการใช้สิทธิ FTA ได้อีกกว่า 2 แสนล้านบาท

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงจากสงครามการค้ารอบใหม่ โดยไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ในอัตรา 19% อีกทั้งสินค้าไทยที่มีความเสี่ยงจากปัญหาการสวมสิทธิ์จะถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีสินค้าส่งผ่าน (Transshipment) ที่อาจสูงถึง 40% จึงทำให้ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องกระจายความเสี่ยงจาก การพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ที่สูง

“ผู้ประกอบการไทยยังใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA ต่ำกว่าระดับเต็มที่ สะท้อนจากอัตราการใช้สิทธิ FTA
ในการส่งออกสินค้าและนำเข้าสินค้าในปี 2567 อยู่ที่ 84% และ 58% ตามลำดับ โดยคาดว่า หากผู้ประกอบการไทยใช้สิทธิ FTA 100% จะทำให้ภาคการส่งออกของไทยได้รับประโยชน์จากมูลค่าภาษีที่ผู้นำเข้าในประเทศภาคีประหยัดได้เพิ่มขึ้น 7 หมื่นล้านบาท จาก 3.1 แสนล้านบาทในปี 2567 เป็น 3.8 แสนล้านบาท ส่วนภาคการนำเข้าของไทยจะได้รับประโยชน์จากมูลค่าภาษีที่ผู้นำเข้าในไทยประหยัดได้เพิ่มขึ้น 1.6 แสนล้านบาท จาก 2.1 แสนล้านบาทในปี 2567 เป็น 3.7 แสนล้านบาท”

นางสาวสุคนธ์ทิพย์ ชัยสายัณห์ นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า ตลาดเอเชีย
ที่มีศักยภาพในการขยายการส่งออกสินค้าของไทย ภายใต้ FTA ได้แก่ อาเซียน จีน อินเดีย และเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของการนำเข้าสินค้าในปี 2562-2567 สูงถึง 6.3%, 4.6%, 8.0% และ 4.7% ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้งสินค้าไทยมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 1-4% เท่านั้น โดยสินค้าที่น่าสนใจที่มีความต้องการนำเข้าอยู่ในระดับสูง และไทยมีแต้มต่อทางการค้าจากส่วนต่างของอัตราภาษีนำเข้าภายใต้ FTA กับ
อัตราภาษีนำเข้าปกติที่สูง สำหรับอาเซียน ได้แก่ น้ำตาล เนื้อสัตว์ปีกสดแช่เย็นแช่แข็ง เนื้อสัตว์ปรุงแต่ง และ
ปลาปรุงแต่ง สำหรับจีน ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง และน้ำตาล สำหรับอินเดีย ได้แก่ เครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณ รถจักรยานยนต์ และยางธรรมชาติ และสำหรับเกาหลีใต้ ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืช โมดิไฟด์สตาร์ช และน้ำผลไม้

“Krungthai COMPASS มองว่า การปลดล็อกศักยภาพทางการค้าและการลงทุนของไทย ภายใต้ FTA จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยแนวคิด F-T-A (Flexibility-Trade Facilitation-Awareness) โดยผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับตัว ศึกษาความต้องการของลูกค้า ขณะที่ภาครัฐสามารถเร่งเจรจาจัดทำ FTA กับตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ควบคู่ไปกับการปฏิรูปกฎระเบียบ ให้ทันสมัย เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งอาจมีการพัฒนาระบบบริการเบ็ดเสร็จ (One-stop service) เพื่อให้ข้อมูลและคำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการในการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษีศุลกากร ภายใต้ FTA รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า และหลักเกณฑ์ระเบียบปฏิบัติในการขอใช้สิทธิ FTA เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จาก FTA ในระดับเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยได้อย่างยั่งยืน”

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon