มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เผชิญกับความไม่แน่นอน โดย
1) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 3 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2568 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 3.8% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.0% และ 3.3% ตามลำดับ
2) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. และ ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 235,000 ราย
และ 3) ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนดีดตัวขึ้น 2.9% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และ สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.3% หลังจากร่วงลง 2.7% ในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,947.32 จุด ลดลง 173.96 จุด หรือ -0.38%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,604.72 จุด ลดลง 33.25 จุด หรือ -0.50% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,384.70 จุด ลดลง 113.16 จุด หรือ -0.50%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ ภาพดังกล่าวสะท้อนไปยังราคาทองคำ และ น้ำมันดิบ โดย สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) หรือ เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 3,771.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 69.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
• SET Index: เราคาดกรอบ SET Index วันนี้ที่ระดับ 1,285-1,300 จุด ตอบรับ ประเด็นนโยบาย Quick-Big-Win ที่รัฐบาลเร่งให้เห็นผลใน 4 เดือนแรก เตรียมเสนอ “คนละครึ่ง พลัส” เข้า ครม. สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม และ คาดว่าตะเปิดใช้จ่ายได้ปลายตุลาคม-พฤศจิกายน (ผู้เสียภาษีได้สิทธิสมทบสูงกว่า) พร้อมเร่งปรับกรอบการคลังระยะกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
ด้านนายกฯ พร้อมหนุนตลาดทุน “เพิ่มสภาพคล่อง-สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน” และ รมว.คลัง กล่าวว่า TISA เป็นโครงการน่าสนใจและเชื่อว่าจะทำได้เร็ว
ส่วนประธานตลท.กล่าวว่า หากรัฐบาลเดินหน้าแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเอื้อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ดันจีดีพีโตได้ทันที 0.89% เอกชนประหยัดต้นทุนรวม 1.34 แสนล้านบาท
หุ้นแนะนำ
KBANK :
แม้กำไรก่อนตั้งสำรองและกำไรสุทธิใน 3Q25 ของกลุ่มธนาคารน่าจะได้รับผลกระทบจากยอดสินเชื่อที่ลดลงและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ เรายังชอบกลุ่มธนาคารเนื่องจากผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง และ ปัจจุบัน กลุ่มธนาคารซื้อขายอยู่ที่ P/BV 0.6x ในปี FY25
(Take profit : 169.00 / Stop loss : 165.00)
PTT:
เราคาดว่าตลาดก๊าซโลกจะมีอุปทานเพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินงานโครงการ LNG ใหม่ ซึ่งน่าจะสูงกว่าการเติบโตของอุปสงค์ในปี 2026-27 ต้นทุน pool gas ของไทยมีแนวโน้มลดลงในปี 2029-27 เนื่องจากราคาก๊าซในตลาด JKM ของเอเชียอ่อนตัวลง ซึ่งเป็นผลดีกับ PTT
(Take profit : 34.25 / Stop loss : 32.75)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon