NEO ต้นทุนวัตถุดิบขึ้น กดงบQ3 อ่อนแรง

42

มิติหุ้น-NEO โดยบล.ลิเบอเรเตอร์ Q3/68 คาดกำไรหดตัวต่อเหลือ 73 ลบ. หดตัว -69% y-y และ -10% q-q : ยังคงตัวลดลงทั้ง y-y และ q-q ตามราคาวัตถุดิบที่ปรับขึ้น แม้คาดยอดขายจะเพิ่มขึ้น y-y และ q-q ก็ตาม แต่ยอดขายกลุ่มของใช้สำหรับเด็กลดลงเป็นอีกปัจจัยที่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นอีกทาง

ยอดขาย เราคาดยอดขายอยู่ที่ 2,632 ลบ. +8.0% y-y +2.0% q-q โดยแยกตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังนี้

กลุ่มของใช้ในครัวเรือน ซึ่งเป็นสินค้าหลักของ NEO คาดยอดขายโตระดับ 7-9% โดยมูลค่าตลาด 8 เดือนแรกของปีพบว่ากลุ่มน้ำยาซักผ้าโต +10% ส่วนของ NEO โต +11% ส่วนกลุ่มน้ำยาปรับผ้านุ่มโตเพียง +3% แต่ NEO โตได้ +10%

กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล คาดยอดขายโต 1-3% โดยมูลค่าตลาดกลุ่มสบู่อาบน้ำ +4% ส่วน NEO โต +14% กลุ่มโรลออนตลาดหด -5% แต่ NEO โต +10%

กลุ่มของใช้สำหรับเด็ก เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ยอดขายยังหด y-y และ q-q โดยมูลค่าตลาดกลุ่มน้ำยาซักผ้า 8 เดือนแรกหดตัว -5% ส่วน NEO หดตัว -8% ขณะที่กลุ่มน้ำยาปรับผ้านุ่มตลาด -6% ส่วน NEO -1% ส่วนกลุ่มสบู่อาบน้ำตลาด -6% ส่วน NEO -1% โดยกลุ่มของใช้สำหรับเด็กการหดตัวยังได้รับผลจากเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้มาใช้ของผู้ใหญ่แทนจากราคาถูกกว่า ประกอบกับยอดขายใน สปป.ลาว และกัมพูชาลดลง

อัตรากำไรขั้นต้น คาด 37.4% ลดลงทั้ง y-y และ q-q จากราคาวัตถุดิบเพิ่ม +30% y-y และคาดค่าใช้จ่ายขายและบริหาร +12% y-y จากกิจกรรมส่งเสริมการขาย คาดกำไรสุทธิเหลือ 73 ลบ. -69% y-y และ -10% q-q

คาดแนวโน้ม Q4/68  ฟื้นตัวแต่การขายในกัมพูชาได้รับผลกระทบมากกว่าคาด : ผบห. แจ้งว่ามีวัตถุดิบบางตัวเช่นสารลดแรงตึงผิว และน้ำหอมเริ่มปรับลงซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตทยอยลดลงได้ แต่ตลาดต่างประเทศเริ่มเห็นผลกระทบ

  • ตลาดกัมพูชา ได้รับผลกระทบแรงกว่าที่คาด จากการต่อต้านสินค้าไทยในตลาดดังกล่าว ซึ่งมียอดขายราว 20-25% ของยอดขายเฉพาะส่งออก หรือคิดเป็นราว 3% ของยอดขาย ทำให้สต็อกสินค้าในตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น NEO อยู่ระหว่างปรับวิธีการนำสินค้าไปขายอีกครั้ง
  • ตลาดเวียดนาม การดำเนินงานกลับสู่ภาวะปกติแล้ว รวมถึงจะมีการนำสินค้าอื่น ๆ ไปจำหน่ายมากขึ้นในไตรมาสหน้าจะมีการส่งออกไปตลาดใหม่คือ มาเลเซีย

            มีแนวโน้มปรับประมาณการลง : จากแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่สูงกว่าคาดทำให้แนวโน้มการดำเนินงานทั้งปีมีความเป็นไปได้ที่อาจต้องปรับลดประมาณการลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เราขอรอดูราคาวัตถุดิบว่าจะปรับลงได้ต่อไหม และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้ดีกว่าคาดหรือไม่

ทำให้คงประมาณการเดิมไว้ ภายใต้ยอดขาย 10,595 ลบ. +5% y-y อัตรากำไรขั้นต้น 39.5% จากราคาวัตถุดิบเพิ่ม ประกอบกับปรับค่าใช้จ่ายขาย และบริหาร เพิ่มขึ้นจากการออกสินค้าใหม่ส่งผลให้มีกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากโรงงานแห่งใหม่ คาดกำไรสุทธิลงเหลือ 589 ลบ. หดตัว -42% y-y

           “การดำเนินงานยังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดไว้ และดูอ่อนแอกว่าคาดโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบมากกว่าคาด แต่จากแนวโน้มราคาวัตถุดิบบางตัวซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักเริ่มเห็นการหดตัวลงทำให้แนวโน้ม Q4/68  คาดฟื้นตัวได้ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาจะหนุนให้กำลังซื้อฟื้นตัวได้เช่นกันซึ่งบวกต่อการดำเนินงานของ NEO  แต่ NEO ยังไม่ใช่ตัวเลือกต้น ๆ ที่จะได้ผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากปัจจัยราคาวัตถุดิบที่ยังกดดันการดำเนินงาน จึงแนะนำ ถือ รอไปก่อน ”

 

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon