มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (14 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของธนาคารรายใหญ่ อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนซึมซับการแสดงความเห็นครั้งล่าสุดของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,270.46 จุด เพิ่มขึ้น 202.88 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,644.31 จุด ลดลง 10.41 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,521.70 จุด ลดลง 172.91 จุด หรือ -0.76%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (14 ต.ค.) จากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการร่วงลงอย่างหนักของหุ้น Michelin ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในฝรั่งเศส หลังนายกรัฐมนตรีประกาศเตรียมชะลอการปฏิรูประบบบำนาญ ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 564.54 จุด ลดลง 2.09 จุด หรือ -0.37%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (14 ต.ค.) โดยราคายังคงเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 4,100 ดอลลาร์/ออนซ์ และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ และจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30.4 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 4,163.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 93 เซนต์ หรือ 1.47% ปิดที่ 62.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,250-1,280 จุด คาดหวัง technical rebound ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จับตาแนวต้านบริเวณ 1,270 จุด และ รายงานผลประกอบการณ์ไตรมาส 3
หุ้นแนะนำ
TISCO: กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 รายงานออกมาที่ 1.73 พันล้านบาท (+1% เทียบกับปีก่อน, +5.3% เทียบกับไตรมาสก่อน) สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 2.7% และสูงกว่าที่ Bloomberg คาดการณ์ไว้ 4.5%
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2568-2570 ขึ้น 1.6-4.0% เพื่อสะท้อนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรสุทธิจากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง
(Take profit : 105.00 / Stop loss : 102.00)
ADVANC: เราประเมินกำไรสุทธิของ AIS ในไตรมาส 3/2025 อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.4% จากปีก่อน และ 0.3% จากไตรมาสก่อน
ยังคงน้ำหนักการลงทุน (Overweight) จากการขยายตัวของ ARPU บนมือถือจากการใช้งานข้อมูลที่เพิ่มขึ้น AIS ยังคงเป็นหุ้นที่เราเลือกเป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม
(Take profit : 300.00 / Stop loss : 293.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
