มิติหุ้น – บริษัท ดีทีจีโอ พรอสเพอร์รัส (DTP) ในเครือบริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (DTGO) ประกาศผลประกอบการในทรัพย์สินที่มีคุณภาพในต่างประเทศ เน้นการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโต ทั้งในด้านการลงทุน บริหารสินทรัพย์ กองทุนอสังหาฯ ตอกย้ำการก้าวสู่บริษัทด้านการลงทุนระดับโลก เพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม และสานต่อวิสัยทัศน์ในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นายหรรสา สุสายัณห์ ประธานกรรมการ บริษัท ดีทีจีโอ พรอสเพอร์รัส จำกัด (DTP) เปิดเผยว่า DTP เป็นบริษัทในเครือ DTGO มีเป้าหมายเป็นบริษัทด้านการลงทุนระดับสากล ด้วยการลงทุนและระดมทุนทั่วโลก พุ่งเป้าไปที่ทรัพย์สิน และ อสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและก่อให้เกิดรายได้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อขยายฐานการลงทุนที่หลากหลาย สอดคล้องกับพันธกิจของกลุ่ม DTGO ที่ต้องการทำธุรกิจเพื่อดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 กลุ่มคือ
Global Investment การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพจากทั่วโลก โดยในปี 2562 ได้เข้าซื้อกิจการโรงแรมในประเทศอังกฤษ บริหารภายใต้เครือโรงแรมชั้นนำในระดับสากล อาทิ Hilton IHG และ Marriott ปัจจุบันดำเนินงานภายใต้ชื่อ บริษัท พรอสเพอร์ แคป (Prosper Cap Corporation Limited [SGX: PPC]) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการแบบองค์รวมและที่พักอาศัยระดับโลก โดยบริษัทถือหุ้นและเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โรงแรม 17 แห่งมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 3,383 ห้อง ตั้งอยู่บนทำเลแห่งศักยภาพในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีโรงแรมในเครือ 2 แห่งตั้งอยู่ในประเทศสกอตแลนด์
Assets Management การบริหารสินทรัพย์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเสริมความมั่นคงในการบริหารเงินและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว โดยมีการนำบริษัทที่ดูแลโรงแรม เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) ภายใต้ชื่อ บริษัท พรอสเพอร์ แคป เปิดการซื้อขายในกระดานตลาดหุ้นสิงคโปร์ในเดือนมกราคม 2567 หลังจากนั้นได้มีการรีไฟแนนซ์มูลค่า 14,260 ล้านบาท (310 ล้านปอนด์) นำมาสนับสนุนการปรับปรุงทรัพย์สิน ( Property Improvement Plan) เช่น โรงแรมHilton Garden Inn Birmingham และ โรงแรม DoubleTree by Hilton Chester ซึ่งแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2568 และจะทำให้โรงแรมมีอัตราการเข้าพักกลับมาเป็นปกติ
Funds Management การระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อหาโอกาสและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในอนาคต ในรูปแบบ Private Equity สินทรัพย์คุณภาพที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทั่วโลก เช่น กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่า ดีทีพี ฮอสพิทอลลิตี้ ที่มีข้อตกลงในการซื้อคืน หรือ DTPHREIT มูลค่าโครงการ 4,107 ล้านบาท ของโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ (Waldorf Astoria Bangkok) เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ แมกโนเลีย ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) และ โรงแรมยู เขาใหญ่ (U Khao Yai) เป็นต้นซึ่งได้ครบกำหนดปิดเดือนกันยายน 2568 รวมถึงได้ตั้งกองทรัสต์ใหม่ DTPBB ที่มีมูลค่าโครงการ 4,114 ล้านบาท โดยเป็นกองทรัสต์ฯ ที่เข้าลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ที่มีศักยภาพสูงด้วยเช่นกัน
“เราเน้นการบริหารธุรกิจแบบ Asset Light ลดการถือครองสินทรัพย์โดยหาพันธมิตรที่มีความสนใจในเรื่องสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นผู้ร่วมลงทุน เพื่อให้เราสามารถบริหารธุรกิจแบบตัวเบา เน้นการเข้าไปช่วยสนับสนุนด้านการบริหาร การช่วยเหลือสังคมในทุกๆ ที่ที่เราเข้าไปลงทุนตามพันธกิจของกลุ่มดีทีจีโอที่ต้องการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง” นายหรรสากล่าว
สำหรับโรงแรม 17 แห่งในสหราชอาณาจักร ซึ่งดำเนินงานภายใต้กลุ่มแบรนด์ Hilton IHG และ Marriott ได้ประกาศผลประกอบการสำหรับ ครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2568 โดยชี้ให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตัวชี้วัดสำคัญของธุรกิจโรงแรม (Top-line Growth) ซึ่งสวนทางกับ ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการเติบโตของโรงแรมทั้ง 17 แห่ง สอดคล้องกับภาพรวมตลาดโรงแรมในสหราชอาณาจักรที่ยังคงมี แนวโน้มเป็นบวกอย่างระมัดระวัง (Cautiously Optimistic) โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจาก นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่า และการฟื้นตัวของตลาดเมืองหลักอย่างลอนดอน
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมโรงแรมยังคงเผชิญกับ แรงกดดันด้านต้นทุน ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นของค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย (National Living Wage) ซึ่งบริษัทฯ มุ่งเน้นกลยุทธ์สำคัญเพื่อรักษาการเติบโตในระยะยาว โดยเน้นประสิทธิภาพเร่งรัดโครงการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้วยเทคโนโลยีและ AI เพื่อรักษาอัตรากำไรสุทธิของโรงแรมให้คงอยู่ โดยยังคงมีปัจจัยบวกมาจากอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้น (Occupancy) มีสัดส่วน 80.7% และสร้างรายได้รวม 3,146 ล้านบาท
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon