มิติหุ้น – แสนสิริ เจ้าตลาดอสังหาฯ โซนกรุงเทพเหนือ แสนสิริ เบอร์หนึ่งเจ้าตลาดอสังหาฯ โซนกรุงเทพเหนือกว่า 25 ปี เดินหน้าพัฒนาโครงการในโซนสะสมถึงสิ้นปี 2568 รวม 30 โครงการ มูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท (รวม 2 โครงการที่เปิดใหม่ในปีนี้) โดยเป็นหนึ่งในดีเวลลอปเปอร์รายแรก ๆ ที่เข้ามาพัฒนาโครงการในโซนนี้ ตั้งแต่โครงการแรกกับ นาราสิริ วัชรพล และขยายการพัฒนาอย่างครอบคลุม ตั้งแต่บ้านเดี่ยวระดับบน ไปถึงทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียมมาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
อาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า “แสนสิริ มองเห็นดีมานด์ความต้องการที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในโซนกรุงเทพเหนือ และการเติบโตของศักยภาพทำเล โดยเฉพาะโซนจตุโชติ รามอินทราและวัชรพล ด้วยการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมที่ครบครันต่อเนื่อง ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในโซน ช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง เชื่อมต่อเข้าเมืองและออกนอกเมืองได้ง่าย ในราคาที่อยู่อาศัยที่เข้าถึงได้ โดยเราพร้อมสานความสำเร็จต่อโมเดล Sansiri Community ซึ่งเป็นจุดแข็งของแสนสิริ มาสู่โซนกรุงเทพเหนือ กับการปักหมุดแลนด์มาร์คแห่งการอยู่อาศัยใหม่ในโซนนี้ ด้วย Sansiri Chatuchot Community สังคมที่อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเทพเหนือ พร้อมเปิด 2 โครงการใหม่ ได้แก่ บุราสิริ จตุโชติ และ สราญสิริ จตุโชติ ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และลูกค้าให้การตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง คาดปิดปีกวาดยอดขายจาก 2 โครงการทะลุพันล้าน”
Sansiri Chatuchot Community แลนด์มาร์คแห่งการอยู่อาศัยใหม่โซนกรุงเทพเหนือ
กับ 2 โครงการล่าสุด ‘บุราสิริ-สราญสิริ’ มูลค่ารวม 4,580 ล้านบาท
ภัคพริ้ง การุญ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Sansiri Community เป็นจุดแข็งของแสนสิริ และเราประสบความสำเร็จในการพัฒนาโมเดลนี้มาแล้วกว่า 17 คอมมูนิตี้ (รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท และรวมพื้นที่กว่า 3,700 ไร่) ภายใต้ความตั้งใจที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างสังคมที่อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบในทุกทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนา ด้วยการสร้างสังคมคุณภาพที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างเพียบพร้อม เราสร้างสรรค์พื้นที่ที่มอบความสุขในทุกวัน ด้วยดีไซน์ ฟังก์ชัน และบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 รวมถึงกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เพื่อสร้างความสุข ความสะดวกสบาย และโอกาสในการต่อยอดลงทุนอย่างยั่งยืน โดย Sansiri Chatuchot Community เป็นคอมมิวนิตี้แห่งใหม่ล่าสุด บนพื้นที่ 185 ไร่ รวมมูลค่าคอมมิวนิตี้แห่งนี้กว่า 7,700 ล้านบาท”
แสนสิริ จตุโชติ คอมมูนิตี้ (Sansiri Chatuchot Community) ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพบนถนนจตุโชติ โดดเด่นด้านการเดินทางที่สะดวกสบาย ด้วยการเข้า-ออกเมืองที่ง่าย เพียง 5 นาที ถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนฉลองรัชและยังเชื่อมต่อทางด่วนกาญจนาภิเษก อีกทั้งใกล้กับถนนเทพรักษ์ ทำให้เดินทางสู่ท่าอากาศยานดอนเมืองและถนนวิภาวดีรังสิตได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน ทั้งศูนย์การค้าชั้นนำ อาทิ Central EastVille, Market Place เทพรักษ์ และ Community Mall ต่าง ๆ รวมถึงสถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา และสถาบันการศึกษาชั้นนำคุณภาพ อาทิ โรงเรียนสาธิตพัฒนา และโรงเรียนนานาชาติ Ruamrudee International School Early Years Campus โดยแสนสิริได้เปิดพรีเซลล์ 2 โครงการแรกในคอมมิวนิตี้นี้ไปเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ ‘บุราสิริ จตุโชติ’ และ ‘สราญสิริ จตุโชติ’
บุราสิริ จตุโชติ (Burasiri Chatuchot) มูลค่าโครงการ 2,080 ล้านบาท ต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์บ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ทที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าแสนสิริมาอย่างยาวนาน โครงการนี้เป็นการร่วมทุนพัฒนาระหว่างแสนสิริ และ มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) ชูดีไซน์บ้านเดี่ยวสไตล์ New England Colonial ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 49 ไร่ มีจำนวนเพียง 124 ยูนิต ด้วยพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 246-384 ตร.ม. การออกแบบเน้นความโอ่โถงด้วยช่องแสงขนาดใหญ่แบบ Double Volume และฟังก์ชันที่รองรับครอบครัวทุกขนาด ด้วยจำนวนสูงสุดถึง 5 ห้องนอน พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ที่ครบครันด้วย Clubhouse, Backyard, Pet Park และ Lake ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบรีสอร์ทอย่างแท้จริง ในราคาเริ่มต้น 13.99-25 ล้านบาท* ลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอพิเศษเพิ่ม 200,000 บาท: https://siri.ly/cXv87uA
สราญสิริ จตุโชติ (Saransiri Chatuchot) มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท เป็นการกลับมาของแบรนด์สราญสิริในโซนรามอินทรา หลังจากเคยประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต โดดเด่นด้วยราคาเริ่มต้นที่หาได้ยากในโซนนี้ โดยเริ่มเพียง 8.59-15 ล้านบาท* ทำให้มีซัพพลายในระดับราคาไม่ถึง 10 ล้านบาท ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในโซนนี้ โครงการมาพร้อมดีไซน์ซีรีส์ล่าสุด Urban Farmhouse ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ มีจำนวนทั้งหมด 265 ยูนิต ด้วยพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 174-244 ตร.ม. การออกแบบเน้นฟังก์ชันครบครัน อาทิ Bay Window ในห้องนั่งเล่นเพื่อรับแสงธรรมชาติ, ห้องนอนกว้างขวาง, จอดรถได้สูงสุด 3 คัน และมีห้องนอนชั้นล่างในบ้านทุกแบบ พร้อมเพลิดเพลินกับพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่รวมกว่า 6 ไร่ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอพิเศษ 100,000 บาท: https://siri.ly/8ofvZwA
เปิดมุมมองใหม่ กับอินไซต์กลุ่มลูกค้าแนวราบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ดีมานด์ความต้องการบ้านยังคงมีต่อเนื่อง โดยลูกค้าให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางกายภาพและจิตใจ นอกเหนือจากโครงการที่ตอบโจทย์ ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 และเหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่น่าจับตา ได้แก่ กลุ่ม Young Successor คนรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จเร็ว เช่น Content Creator/Influencer, Young Investor หรือ Heir & Family Business Successor ก้าวเข้ามาเป็นลูกค้าบ้านระดับบนตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยมองบ้านเป็นสินทรัพย์แห่งอนาคต และกลุ่ม Investor ที่เล็งเห็นโอกาสในการลงทุนบ้านระดับบนเพื่อปล่อยเช่าและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน โดยสามารถสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและดึงดูดผู้เช่าระดับสูง เช่น ผู้บริหาร หรือครอบครัวที่มีบุตรหลานเรียนโรงเรียนนานาชาติ ที่พร้อมจ่ายค่าเช่าสูงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ด้านความสนใจของลูกค้าส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังคงอยู่ในเซกเมนต์บ้านระดับบนอย่าง สราญสิริ, เศรษฐสิริ, บุราสิริ และบ้านระดับลักซ์ชัวรีราคา 50 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับทำเลเด่นที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ได้แก่ โซนรามอินทรา, จตุโชติ, วัชรพล สะท้อนจากความสำเร็จของ เศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ ที่เพิ่ง Sold Out ไป, โซนราชพฤกษ์และทำเลใกล้ สนามบิน เช่น ดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ นอกจากนี้ Strategic Location อย่างภูเก็ต ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมเช่นกัน ล่าสุด เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 700 ล้านบาทภายใน 48 ชั่วโมง
“ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย กลุ่มธุรกิจแนวราบของแสนสิริยังคงแข็งแกร่ง ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกที่มุ่งเน้นความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า (Demand-driven Product Development) โดยได้พัฒนาโปรดักต์ที่โดนใจจนประสบความสำเร็จเกินคาด เช่น บุราสิริ จตุโชติ, สราญสิริ จตุโชติ,สราญสิริ เกาะแก้ว รีทรีต และเศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต นอกจากนี้ยังเดินหน้าขยายพอร์ตสินค้าลักซ์ชัวรีและพรีเมียมไปยังทำเลศักยภาพที่มีดีมานด์สูงและไม่หวั่นไหวต่อสภาพตลาด อาทิ รามอินทรา-จตุโชติ, กรุงเทพกรีฑา และแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ต พร้อมทั้งประสานงานกับสถาบันการเงินเพื่อดูแลลูกค้า ตลอดจนเปิดโอกาสการลงทุนร่วมกับพันธมิตรใหม่ และจุดแข็งสำคัญคือโมเดล Sansiri Community ที่ไม่เหมือนใคร มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบในทุกทำเลที่เข้าไปพัฒนา โดยคาดการณ์ว่ายอดขายแนวราบใน 10 เดือนจะพุ่งสูงถึง 16,000 ล้านบาท นอกจากนี้ตั้งแต่ต้นปีแสนสิริประสบความสำเร็จ Sold Out โครงการแนวราบแล้วกว่า 12 โครงการ มูลค่ารวม 18,600 ล้านบาท และเตรียมปิดการขายอีก 8 โครงการ มูลค่ากว่า 11,500 ล้านบาท” อาณัติ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon