THAI ราคาหลุดทำนิวโลว์ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

699

ราคาหุ้น THAI หรือ บมจ.การบินไทยทำนิวโลว์ปิดที่ 9.60 บ./หุ้น (24 ต.ค.68) ต่ำสุดหลังจากกลับเข้ามาเทรดอีกครั้งเมื่อ 4 ส.ค.68 (Resume trade) หลังพ้นจากแผนฟื้นฟูทำมูลค่ามาร์เก็ตแคปวูบไป กว่า 9.3 หมื่นลบ.นับตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.68 ใช้ระยะเวลาเพียงครึ่งเดือนที่ THAI เจอมรสุมภายใน….แล้วจากนี้ไปความมั่นใจในสายตานักลงทุนอยู่ตรงไหน?????

หากจะไล่เรียงกันดูแล้ว ในด้านพื้นฐานหรือโอกาสในการสร้างผลประกอบการก็ทำได้เป็นอย่างดีต่อเนื่องและหากไล่เรียงตั้งแต่ Q1/68 กำไรสุทธิ 9,831 ลบ.เติบโต 308% YoY , กำไรสุทธิ Q2/68 ที่ 12,124 ลบ.เติบโตกว่า 3,800% YoY ส่วนแนวโน้มผลงานงวด Q3/68 ด้าน บล.ยูโอบีฯ ประเมินกำไรจะทรงตัวจาก Q3/67 ที่มีกำไร 12,479 ลบ.ส่วนกำไรทั้งปี 68 ฝั่งนักวิเคราะห์ IAA Consensus พบว่ากำไรเฉลี่ยปี 68 ที่ 32,932 ลบ. ส่วนกำไรสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ที่  41,258 ลบ.ปรับเพิ่มกำไรขึ้น 56%, 36% และ 25% สำหรับปี 68-70 ซึ่งสะท้อนการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ฝูงบินใหม่ และการควบคุมต้นทุนบุคลากร การแข่งขันที่เพิ่มนำมาซึ่งการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในอนาคต

“ซึ่งต้องชื่นชมว่าเป็นฝีมือบอร์ดและทีมผู้บริหารชุดแผนฟื้นฟู…ที่เป็นมืออาชีพโดยแท้จริง”….และสร้างความน่าเชื่อถือต่อสายตานักลงทุนว่า THAI รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกา…มาแล้ว…ราคาหุ้นจึงสะท้อนผลที่คาดการณ์กันไว้ว่าในอนาคต THAI จะเติบโตและเฉิดฉายอย่างสง่างามอีกครั้ง ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นก็ตาม…. เพราะไม่ได้อยู่แดนสนธยาเช่นในอดีตอีกแล้วราคาหุ้นจึงแรลรี่จนวิ่งไปไกลสูงถึง 17.80 บ. มาร์เก็ตแคปทะลุ 5 แสนลบ.แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ต.ค.68) เหลือเพียง 2.7 แสนลบ.เท่านั้นเพราะอะไร???

ชัดเจนหากมีบอร์ดบริหารที่ไม่มืออาชีพในสนามธุรกิจก็เหมือนมีแม่ทัพที่ไม่เก่ง หรือไม่เจนในสนามรบ ก็ไม่มีใครเชื่อถือฝากอนาคตไว้ด้วย ล่าสุดหลุดรายชื่อบอร์ดที่เตรียมเสนอชุดใหม่ (ประชุม 23 ต.ค.68) โผ 15 ชื่อ “พลากร-วัชรา-ญนน์ วิรไท-ปิยสวัสดิ์-ชาญศิลป์-รุ่งโรจน์-วราห์-รพี ชาริตา” และที่เหลือมีรายชื่อจากข้าราชการด้วย ซึ่งบิ๊กเนมที่ปรากฎใครดูชื่อก็ร้องอ๋อว่าใครบ้างที่ส่งมา ซึ่งยังดีที่ยังมีการเสนอชื่อ 2 บอร์ดแผนฟื้นฟูกลับเข้ามา

ระเบิดเวลาอีกเรื่องหากหลังจากนี้ไปกระบวนการแทรกแซงดังกล่าวจะกระทบต่อแผนยุทธศาสตร์ “Fleet Simplification” ที่ได้ยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.หลังจากออกแผนฟื้นฟู และระยะสั้นหากยังไม่สามารถหาเครื่องบินลำตัวกว้างมาเติมได้ทันจำนวน 9 ลำ ภายในระยะเวลา 5 ปี ความเสียหายที่เกิดคือ THAI จะสูญเสียรายได้ระดับแสนลบ.เลยทีเดียวใครจะรับผิดชอบ หากเทียบดูค่าเช่าที่ฝ่ายบริหารเสนอราว 1.3 หมื่นลบ.บวกลบคูณหารยังไงมันก็คุ้มค่ากับการสร้างรายได้เข้ามาระดับ แสนลบ.ระยะ 5 ปี…ล่าสุดเริ่มมีกลิ่นเพราะกระแสข่าวออกมาว่าถูกตีกลับ…

สัญญาณนี้สะท้อนว่ากระบวนการทำงานของฝ่ายบริหารที่ Sharp และแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีและมีแบบแผน ต่างจากยุคแดนสนธาที่ขยับตัวแต่ละทีเชื่องช้าไปหมด (Slow moving) ไม่ทันเกมทันการณ์สุดท้ายก็คงไม่พ้นที่จะต้องกลับเข้าแผนฟื้นฟูอีกเช่นเคย จากบอร์ดที่ไม่มืออาชีพ…ประสบการณ์ได้สอนให้นักลงทุนได้รับรู้อย่างกระจ่างแจ้ง

“นี่คือภาพที่นักลงทุน…เห็นเหมือนกันทุกคน…จึงไม่ซื้อแนวทางของผู้ถือหุ้นใหญ่…กำลังวางเกมที่ไม่ได้เป็นมืออาชีพพยายามทุกวิถีทางที่จะเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง”

ทิ้งท้ายให้คิดการแปรสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทมหาชนอย่างสมบูรณ์และปล่อยให้มืออาชีพบริหาร…สร้างผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ….นี่คือแนวทางควรจะเป็น….อย่าไปบิดเบือนเลย….ทุกคนรู้ทุกคนเห็นกันหมดเพียงแต่ไม่ได้พูดกันออกมาตรงๆเท่านั้น…หยุดเสียเถอะวงจรแบบนี้ก่อนจะสายเกินแก้!!!!!!!

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon