Pi Daily น่าจะเริ่มเห็นตลาดฟื้นตัวได้บ้าง ประเมินตลาด Price In ปัจจัยอ่อนไหวไปพอสมควร ขณะที่บรรยากาศตลาดหุ้นโลกสดใส NVIDIA ทำ ATH และ FED คืนนี้ก็น่าจะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน (ดีกับตลาด) ประกอบกับวันนี้เริ่มโครงการคนละครึ่ง ช่วยสนับสนุนการใช้จ่าย

14

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 161 จุด (+0.3%) ขณะที่ S&P500 , Nasdaq ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้แรงหนุนจากหุ้น NVIDIA ที่ปรับขึ้นแข็งแกร่ง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.8% ถูกกดดันจากความเป็นไปได้ที่ OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิต

เมื่อคืนที่ผ่านมาหน่วยงานในสหรัฐฯ ยังคงไม่ได้กลับมาเปิดทำการทำให้ไม่มีข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจเปิดเผย โดยนักลงทุนไปให้น้ำหนักกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 3Q25 รวมไปถึง Technology AI ที่ยังเชื่อมั่นถึงการเติบโตในช่วงถัดไป (NVIDIA +5% MSFT +2%) โดยหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการคืนนี้ตามเวลาประเทศไทยจะถึงการประกาศผลประกอบการของหุ้น META MSFT Alphabet หากรายงานดีกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯรวมถึง DELTA ใน SET (เชิงจิตวิทยา) รวมไปถึงนักลงทุนจะจับตารอดูถ้อยแถลงของผู้บริหารเกี่ยวกับ AI และในขณะเดียวกันคืนนี้ก็จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 99% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% และเดือน ธ.ค. ปรับลดอีก 0.25% ด้วยโอกาส 90% ก็เชื่อว่าจะเป็นไปได้ด้วยเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ไม่ได้ร้อนแรงผสานกับเริ่มเห็นตลาดแรงงานชะลอตัว และด้วยราคาน้ำมันดิบที่อยู่ระดับต่ำจะเป็นปัจจัยคลายกังวลเงินเฟ้อในช่วงถัดไป

ส่วนปัจจัยภาษีนำเข้าคล้ายกับว่ายังไม่เห็นผลอย่างมีนัยยะสำหรับราคาสินค้าในสหรัฐฯ หากนำปัจจัยด้านลดดอกเบี้ยและกำไรที่ยังเด่นในกลุ่ม Tech ก็เชื่อว่าหุ้นสหรัฐฯมีทิศทางที่น่าจะดีต่อเนื่อง สำหรับในประเทศวานนี้กองเศรษฐกิจและกีฬารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในช่วง 1 ม.ค. – 26 ต.ค. ที่ระดับ 26.2 ล้านราย (-7.2%YoY) แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณารายสัปดาห์จะพบว่าอยู่ที่ 5.9 แสนราย (+6.4%WoW) แรงหนุนหลักมาจาก Blackpink แต่สัปดาห์ถัดไปกองเศรษฐกิจประเมินว่าอาจทำได้เพียงทรงตัว (ตัวเลขข้างต้นสะท้อนว่ายังไม่เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นเท่าใดนัก) วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1300 – 1325 น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้บ้างหลังสะท้อนปัจจัยอ่อนไหวที่เกิดขึ้นไปแล้วประกอบกับบรรยากาศตลาดหุ้นโลกค่อนข้างสดใส และวันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มโครงการ “คนละครึ่ง” น่าจะช่วยหนุนบรรยากาศการจับจ่าย เชิงกลยุทธ์จึงเน้นเลือกเป็นรายตัวในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาครัฐ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ธนาคาร (SCB) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC)

CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)

คาดเห็นแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง 4Q25 มีทิศทางดีขึ้นกว่าช่วง 3 ไตรมาสแรก รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่ระยะสั้นคาดรายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 2.3 พันล้านบาท (+6%YoY, +1%QoQ) หนุนจากยอดขายที่โต 3%YoY

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)

2H25 เบื้องต้นคาดมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวในทุกธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มและการเร่งโอนคอนโดใหม่เข้ามา ขณะที่ธุรกิจศูนย์การค้าได้รับผลดีจากการเปิดโครงการเซ็นทรัล พาร์ค และกระบี่ ที่มีกำหนดเปิดในช่วง เดือน ก.ย. และ ต.ค. ตามลำดับ

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon