
มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 74 จุด (-0.16%) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวนจากการที่ FED ตัดสินใจลดดอกเบี้ย 0.25% ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.8% หลังจากสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าตลาดคาดการณ์
เมื่อคืนที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ และประกาศว่าจะยุติการลดขนาดงบดุล (QT) กังวลกับตลาดแรงงานที่มีความเสี่ยงมากขึ้นและการที่หน่วยงานในสหรัฐฯ ปิดตัวชั่วคราวจากภาวะ Shut Down ทำให้ประเมินภาวะเศรษฐกิจลำบากมากยิ่งขึ้นการดำเนินนโยบายจากนี้จึงจะเน้นติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเป็นหลักและไม่ได้ส่งสัญญานชัดเจนว่าเดือน ธ.ค. จะดำเนินนโยบายอย่างไรทำให้ค่าเงิน Dollar กลับมาแข็งค่าระยะสั้น พร้อมกับเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าเล็กน้อยทดสอบระดับ 32.37 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ข้อมูลจาก CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนักราว 67.8% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือน ธ.ค. แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าความสนใจของนักลงทุนอาจอยู่ที่ผลประกอบการมากกว่าเรื่องของ FED อย่างเมื่อคืน NVIDIA ทำสถิติมูลค่ากิจการเกินกว่าระดับ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นบริษัทแรกในโลกที่ทำได้เช่นนี้ประกอบกับหลังตลาดปิด Alphabet ประกาศผลประกอบการพบว่าดีกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ 30% รายได้รวม +16%YoY และกำไรขยายตัว 33%YoY รายได้จาก Google +15%YoY สะท้อนว่า AI ยังไม่เห็นผลกระทบอย่างมีนัยยะต่อ Search Engine โดยธุรกิจ Google Cloud เติบโตค่อนข้างดี +34%YoY ราคาหุ้นหลังตลาดปิด +7% ดีต่อ Googl03 สำหรับปัจจัยในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนรอติดตามผลประกอบการ 3Q25 ที่ จากนี้จะทยอยรายงานออกมา ส่วนมาตรการคนละครึ่งเมื่อวานนี้พบว่าประชาชนใช้จ่ายทะลุ 3.6 ล้านคนยอดใช้จ่ายรวม 752 ล้านบาทจากนี้ก็เชื่อว่ายอดขายจะดีขึ้นเรื่อยๆ ดีกับกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT) วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1305 – 1325 ตลาดยังมีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยช่วงถัดไปจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำและเงินเฟ้อที่ต่ำเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นมีปัจจัยหนุนเฉพาะ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคาร (SCB KTB) ท่องเที่ยว (CENTEL MINT) การเงิน (MTC) ส่งออก (ITC TU)
CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)
คาดเห็นแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง 4Q25 มีทิศทางดีขึ้นกว่าช่วง 3 ไตรมาสแรก รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่ระยะสั้นคาดรายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 2.3 พันล้านบาท (+6%YoY, +1%QoQ) หนุนจากยอดขายที่โต 3%YoY
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)
ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่จำกัดการขยายตัวของสินเชื่อ และคุณภาพสินเชื่ออาจอ่อนแอลง SCB เพิ่มความระมัดระวังด้วยการตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษรวม 3 พันลบ. ใน 9M25 รองรับความผันผวน และอาจพิจารณากลับเป็นรายได้ในอนาคตหากสถานการณ์คลี่คลายลง นอกจากนี้ กลยุทธ์การนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดีส่งผลให้ Cost to income ratio ทรงตัวราว 40% เราคาดกำไรสุทธิปี 2025 จะเติบโต 10%
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























