“GCAP GOLD” ชี้สองปัจจัยใหญ่ตัวกำหนดทิศทางทองคำโค้งสุดท้าย

14

มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD มองทองคำสัปดาห์นี้จับตา 2 ปัจจัยสำคัญ ประชุมเฟด-เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน กำหนดทิศทางราคาทองโค้งสุดท้าย  พร้อมประเมิน หากเฟดลดดอกเบี้ย หนุนราคาทองพุ่ง ส่วนข้อตกลงการค้าหากมีความคืบหน้าอาจกดดันทอง ได้เป็นระยะ ด้านนักวิเคราะห์แนะกลยุทธ์ “รอย่อซื้อโซนแนวรับสำคัญ”

นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้กลับมาอยู่ในจุดที่ตลาดทั่วโลกให้ความสนใจอีกครั้ง โดยมี 2 ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองคำในช่วงโค้งสุดท้ายของเดือนตุลาคม ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของทองคำ เนื่องจากอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนและกดดันทองคำได้ในเวลาเดียวกัน

ขณะเดียวกันตลาดกำลังจับตาการประชุมเฟดในคืนวันพุธที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงถึง 98% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หลังจากล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด โดยมีดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ 3% ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว และสถานการณ์ดังกล่าวจะสนับสนุนความคาดหวังว่าเฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อประคองเศรษฐกิจ และหากเฟดลดดอกเบี้ยตามคาดการณ์ ส่งผลให้เป็นปัจจัยบวกโดยตรงและเป็นแรงพยุงสำคัญต่อราคาทองคำ

สำหรับอีกประเด็นสำคัญที่ตลาดจับตามอง ได้แก่ ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งล่าสุดมีพัฒนาการเชิงบวก ทั้งสองฝ่ายได้ “เก็บรายละเอียดขั้นสุดท้าย” ของร่างข้อตกลงการค้าสำเร็จแล้ว และเตรียมส่งต่อให้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พิจารณาในสัปดาห์นี้

อีกทั้งผู้นำทั้งสองประเทศมีกำหนดพบปะกันนอกรอบการประชุม APEC ในวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคมนี้ ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่า คาดหวังให้การพูดคุยครั้งนี้นำไปสู่ “ข้อตกลงที่สมบูรณ์” ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะช่วยคลายแรงกดดันทางการค้า และสร้างแรงกดดันออกมาเป็นระยะจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ ฝ่ายวิเคราะห์ GCAP GOLD ประเมินว่า ภาพรวมทองคำยังอยู่ในภาวะการพักฐานที่ยังไม่จบ และด้วยสัปดาห์นี้มีปัจจัยข่าวสำคัญทั้งสองด้าน ซึ่งอาจหนุนหรือกดดันราคาทองได้พร้อมกัน จึงควรใช้กลยุทธ์อย่างระมัดระวัง

โดยล่าสุด ราคาทองถูกกดดันให้ปรับตัวลงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ $4,000 ทำให้ฝั่งขาซื้อเหลือแนวรับสำคัญที่บริเวณ $3,850–$3,820 เพื่อพิจารณาเข้าซื้อ (ราคาทองคำไทยประมาณ 59,000–58,500 บาท) ซึ่งเป็นโซนแนวรับสำคัญสุดท้ายของฝั่งขาซื้อ และราคาไม่ควรหลุดระดับดังกล่าว เพราะหากหลุด อาจส่งผลให้กราฟรายเดือนเสียรูปการขึ้นและเข้าสู่ช่วงพักตัวต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หากกราฟสามารถยืนระยะได้บริเวณฐานดังกล่าว ก็มีโอกาสที่จะเริ่มสร้างโครงสร้างขาขึ้นระยะสั้น เพื่อให้สามารถขึ้นไปทำกำไรได้บริเวณ $4,000–$4,100 ซึ่งเทียบเท่าราคาทองคำไทยราว 61,300–62,800 บาท

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon