
มิติหุ้น – ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าKTB จัดการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อเร็วๆนี้ ผู้บริหารมองว่าเป้าหมายอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่ 0% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ที่ 2.9-3.0% ในปี 68 น่าจะทำได้ยาก โดยการขยายตัวของสินเชื่อถูกกดดันจากการชำระคืนหนี้ก่อนกำหนดของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 25bp ในไตรมาส 4/68 ซึ่งน่าจะกดดันอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ต่อเนื่องไปจนถึงปี 69
อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะมีต้นทุนดอกเบี้ยลดลง จากการไถ่ถอนตราสารทางการเงินที่นับเป็นกองทุนสำรองส่วนเพิ่มชั้นที่ 1 (AT1) มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาทและมีอัตราดอกเบี้ย 8-9% ต่อปีในเดือนมี.ค.69 ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์ฯประเมินว่าน่าจะช่วยประหยัดดอกเบี้ยจ่ายประมาณ 1.5 พันล้านบาทต่อปี
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่า รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยของ KTB จะอ่อนตัวลงทั้ง qoq และ yoy ในไตรมาส 4/68 และปี 69 จากฐานที่สูง แต่ผู้บริหารคาดว่ายอดค่าใช้จ่ายในการดำเงินงานจะยังทรงตัว และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 40- 42% ในปี 68-69 ส่วน KTB จะมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมจากบริการ wealth management เพื่อให้รายได้ค่าธรรมเนียมยังคงเติบโตดีในปี 69-70
ทั้งนี้ ผู้บริหาร KTB กล่าวระหว่างการประชุมว่า KTB มุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน และตั้งเป้า ROE อยู่ที่เลขสองหลักช่วงสามปีข้างหน้า ขณะที่ในสัปดาห์นี้ KTB ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการในงวดครึ่งปีแรก 68 ซึ่งเป็นการทำตามคำมั่นของธนาคารที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นและจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าธนาคารจะไม่ได้กล่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงอัตราการจ่ายเงินปันผล แต่ผู้บริหารเชื่อมั่นว่า KTB จะยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้อัตรา 50% ของกำไรสุทธิในปี 69
นอกจากนี้ ธนาคารอาจพิจารณาเรื่องการซื้อหุ้นคืน เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น รวมทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่สูงถึง 21.8% ณ สิ้นไตรมาส 3/68
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ยังคงราคาเป้าหมายหุ้น KTB อยู่ที่ 30.50 บาท ซึ่งเท่ากับ P/BV 0.86 เท่าในปี 69 และยังแนะนำ “ซื้อ” เพราะมองว่าธนาคารมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ 6.4-6.6% ต่อปีในปี 68-70 (เทียบ ค่าเฉลี่ยของธนาคารในอาเซียนที่ 5.8%) และการประเมินมูลค่าที่ P/BV 0.77 เท่าในปี 69 (เทียบค่าเฉลี่ยของธนาคารในอาเซียนที่ P/BV 1.3 เท่าในปี 69) ยังน่าสนใจ ขณะที่ยังคงสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลของ KTB อยู่ ที่ 49% ของกำไรสุทธิในปี 68-70 เนื่องจากเชื่อว่า KTB มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง แข็งแกร่งที่ 21.8% ณ สิ้นไตรมาส 3/68 จะช่วยลดผลกระทบหากคุณภาพสินทรัพย์ลดลงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม KTB จะมี downside risk หากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกันมี NPL เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนจะมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของสินเชื่อรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจและอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ลดลง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
                






















		






