BEM มั่นใจพื้นฐานแข็งแกร่ง กำไรโตต่อเนื่อง จ่อขยายสัมปทาน พร้อมสร้าง Double Deck ลดค่าทางด่วน

56

มิติหุ้น – BEM มั่นใจพื้นฐานแข็งแกร่ง ธุรกิจทางด่วน-รถไฟฟ้ากำไรโตต่อเนื่องรับผู้ใช้บริการเพิ่มทุกปี คาดผลประกอบการ Q3 ปี 2568 จะทำ New High อีกครั้งจากจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเดินหน้าขยายสัมปทาน และสร้าง Double Deck ลดค่าทางด่วนให้ประชาชน ขณะที่ ฟิทช์ เรทติ้งส์ จัดอันดับความน่าเชื่อถือ BEM ในประเทศระยะยาวที่ A(tha)

ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า BEM เป็นองค์กรที่เติบโตบนพื้นฐานธุรกิจที่มั่นคง ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของเมือง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ กำไร และกระแสเงินสดนั้นแข็งแกร่ง พร้อมแผนการขยายสัมปทานและลงทุนในโครงการใหม่ เพื่อต่อยอดการเติบโตในระยะยาว โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่

1) รายได้–กำไร “ทางด่วน–รถไฟฟ้า” เติบโตต่อเนื่อง  

ธุรกิจทางด่วนของ BEM ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยกว่า 1.1 ล้านคัน/วันทำการ ยังคงเป็นฐานรายได้หลักที่มั่นคง ทำกำไร และกระแสเงินสดให้ BEM อย่างมาก

ธุรกิจรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ยกว่า 520,000 คน/วันทำการ เป็นรถไฟฟ้าสายเดียวที่มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปริมาณสูงกว่าก่อนเกิดสถานการณ์ Covid-19 (ปี 2562) เนื่องจากเป็นสายวงกลม (Circle line) สายหลักในเมืองที่ทุกสายส่งผู้โดยสารเข้ามา และตลอดสายทางมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น อาทิ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  One Bangkok  และ Dusit Central Park  ซึ่งอีก 2 ปีข้างหน้าหลังเปิดสายสีส้มตะวันออกคาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มเป็น 650,000 คน/วันทำการ ซึ่ง BEM ได้สั่งซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 21 ขบวนไว้รองรับแล้ว

ส่วนรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันมีประมาณ 1,200 ล้านบาท/ปี จะโตขึ้นอีกกว่า 20% สอดคล้องกับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าธุรกิจรถไฟฟ้ามีการเติบโตสูง ต่อเนื่อง และมั่นคงในระยะยาวจากสัมปทานที่เหลืออีกกว่า 25 ปี

นอกจากนี้ BEM ยังมีรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) รถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกกว่า 2,200 ล้านบาท/ปี รวมถึงรายได้ในอนาคตจากรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเปิดให้บริการปลายปี 2570 (ส่วนตะวันออก) และทั้งสายในปี 2573

**คาดว่ากำไร ของ BEM ในไตรมาสที่ 3/2568 จะสูงทำ New High อีกครั้ง และจะเพิ่มขึ้นทุกปี**

2) Fitch Ratings จัดอันดับ A(tha) แนวโน้ม Stable ลดต้นทุนทางการเงิน

BEM ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในประเทศระยะยาวจาก Fitch Ratings ที่ระดับ A(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ (Outlook Stable) สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของบริษัท จากสัมปทานที่มั่นคงในระยะยาว สร้างรายได้และกำไรที่โตต่อเนื่อง แม้จะมีการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการ Double Deck หรือทางด่วนชั้นที่ 2 แต่ Fitch เชื่อว่าเป็นการลงทุนที่มีความสำคัญ ส่งเสริมการเติบโตในระยะยาว  ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการเงินลงทุนได้จากรายได้ที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

**คาดว่าต้นทุนทางการเงินทั้งในส่วนของสินเชื่อจากธนาคาร และหุ้นกู้ จะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญตั้งแต่ ปี 2569**

3) เดินหน้าขยายสัมปทาน สร้าง “Double Deck” และลดค่าผ่านทาง

อีกหนึ่งความคืบหน้าสำคัญของ BEM คือ การขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 และทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด เพื่อสร้างโครงการ Double Deck จากงามวงศ์วาน-พระราม 9 และลดค่าทางด่วนในเมืองเหลือไม่เกิน 50 บาท (จากเดิม 90 บาท) นั้นมีความชัดเจนแล้ว อยู่ระหว่างเสนอ ครม. อนุมัติตาม พรบ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในธันวาคม 2568

ซึ่งการลดค่าผ่านทางนั้น ไม่กระทบกับรายได้ของ BEM ตามสัญญาเดิม เพราะจะมีการปรับส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางในเมืองเพื่อชดเชยให้แก่ BEM จากเดิม (กทพ.:BEM) 60:40 เป็น 50:50 ส่วนการลงทุนสร้าง Double Deck กว่า 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาจราจร จะแลกกับการขยายสัมปทานออกไปอีก 22 ปี 5 เดือน คาดว่าหลัง Double Deck ให้บริการ รถจะติดน้อยลง ส่งผลให้ปริมาณผู้ใช้ทางเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ทำให้ BEM มีสัมปทานที่คุณภาพ มีความมั่นคงยาวนานขึ้น

นอกจากปัจจัยบวกสำคัญทั้ง 3 ข้อดังกล่าว BEM ยังมีโอกาสทางธุรกิจที่จะเติบโตอีกมาก จาก โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่ขณะนี้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จ้าง BEM เดินรถส่วนเหนืออยู่ คาดว่ารัฐบาลจะอนุมัติให้ รฟม.เจรจากับ BEM ให้เดินรถต่อเนื่องภายในต้นปี 2569 เพื่อทันกับงานก่อสร้างที่จะแล้วเสร็จในอีก 3 ปี และยังมีโครงการทางหลวงพิเศษ  M5 ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (รังสิต-บางปะอิน) และ M9 ทางยกระดับสายวงแหวนรอบนอก กทม. (บางขุนเทียน -บางบัวทอง) ซึ่ง BEM ให้ความสนใจจะเข้าร่วมการประมูลอย่างแน่นอน

“เรามีเป้าหมายชัดเจนในการขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้นและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” ดร.สมบัติ กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon