ShopBack และ Trip.com ฉลองความสำเร็จแคมเปญ “TripTastic” สร้างยอดจองกว่า 300,000 รายการ มอบแคชแบ็คพิเศษเพิ่มกว่า 4 เท่าให้นักเดินทางชาวไทย

10

มิติหุ้น – รายงาน “Why Travel?” เผยเทรนด์การท่องเที่ยวปี 2026  ShopBack มอบแคชแบ็คพิเศษมากกว่าเดิม 4 เท่าสำหรับผู้ใช้ชาวไทยเมื่อเทียบกับปีก่อน ฉลองความร่วมมือสุดยิ่งใหญ่ในแคมเปญ 11.11 พร้อมแคชแบ็ค 10% ทุกการจองที่พัก

คำบรรยายภาพ: (จากซ้ายไปขวา) คุณกิตตน์ เหล่าอาภรณ์กุล Head of Sales, ShopBack Thailand, คุณกวิน ประชานุกูล, ผู้จัดการทั่วไปของ ShopBack Thailand คุณไดแอน คุย ผู้จัดการทั่วไปของ Trip.com Group Thailand และ คุณ เจษฎาพันธุ์ จันทขันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์, Trip.com Group Thailand ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งปีแคมเปญ TripTastic ที่สร้างยอดจอง 300,000 ครั้งและแคชแบ็คถึงสี่เท่าให้กับนักเดินทางชาวไทย

ShopBack แพลตฟอร์มช้อปปิ้งและรีวอร์ดโปรแกรมชั้นนำของเอเชีย ร่วมกับ Trip.com ผู้ให้บริการท่องเที่ยวระดับโลก เฉลิมฉลองความสำเร็จครบรอบหนึ่งปีของแคมเปญ “TripTastic” ซึ่งสร้างยอดการจองกว่า 300,000 รายการ บน Trip.com ผ่าน ShopBack ผู้ใช้งานได้รับแคชแบ็คมากกว่าเดิมถึงสี่เท่า ให้แก่นักเดินทางชาวไทย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ตลอดปีที่ผ่านมา นักเดินทางชาวไทยหันมาใช้ ShopBack เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการจองบริการต่าง ๆ ผ่าน Trip.com อย่างต่อเนื่อง โดยหมวดหมู่ยอดนิยม ได้แก่ โรงแรม (แคชแบ็ค 12%) เที่ยวบิน (แคชแบ็ค 4%) สถานที่ท่องเที่ยว (แคชแบ็ค 5%) และบริการรับ–ส่งสนามบิน (แคชแบ็ค 6%) ขณะที่จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ประเทศไทย จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาหลีใต้

“TripTastic ได้เปลี่ยนการท่องเที่ยวแบบคุ้มค่าให้กลายเป็นนิสัยใหม่ของนักเดินทางชาวไทย” กวิน ประชานุกูล ผู้จัดการทั่วไปของ ShopBack ประเทศไทย กล่าว “ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี นักเดินทางชาวไทยมียอดการจองบนเว็บไซต์ Trip.com ผ่าน ShopBack กว่า 300,000 ครั้ง และได้รับแคชแบ็คเพิ่มขึ้นถึง สี่เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าความคุ้มค่าและประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจสามารถเกิดขึ้นไปพร้อมกันได้อย่างลงตัว ความร่วมมือกับ Trip.com ยังช่วยปลดล็อกสิทธิพิเศษและแคชแบ็คเพิ่มเติมควบคู่กับโปรแกรมรีวอร์ดของบัตรเครดิต เพื่อให้นักเดินทางชาวไทยสามารถประหยัดได้มากขึ้น ทั้งในการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และประสบการณ์การท่องเที่ยวในครั้งต่อ ๆ ไป ผ่านการวางแผนที่สะดวกสบายและคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม”

“ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองที่นำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบ” ไดแอน ชุย ผู้จัดการทั่วไปของ Trip.com Group ประเทศไทย กล่าว “ในปีที่ผ่านมา เราพบว่านักท่องเที่ยวให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่พักโฮมสเตย์ และกิจกรรมอีเวนต์ที่สนุกสนานและมีสีสันมากขึ้น ขณะเดียวกันยอดการใช้งาน TripGenie ผู้ช่วย AI บนแพลตฟอร์มของ Trip.com ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักท่องเที่ยวต้องการความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่การแปลภาษา ไปจนถึงการวางแผนการเดินทาง เพื่อเปลี่ยนแรงบันดาลใจให้กลายเป็นทริปจริงได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ”

“ความร่วมมือกับ ShopBack ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มนักเดินทางที่ให้ความสำคัญกับการจองทริปอย่างคุ้มค่าได้มากขึ้น”

เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของความร่วมมือในปีนี้ ShopBack และ Trip.com ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจาก Trip.com Group และรายงาน “Why Travel?” โดย Google ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มใหม่ ๆ ของพฤติกรรมนักเดินทางชาวไทย ทั้งในด้านการวางแผน การจองทริป และการมองหาความคุ้มค่าในการเดินทางมากยิ่งขึ้น การผสานข้อมูลเชิงลึกจากทั้งสองแหล่งช่วยให้เห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มุ่งเน้น “ความคุ้มค่าที่เต็มไปด้วยประสบการณ์”

  • AI ในฐานะผู้ช่วยแบบเรียลไทม์: เปลี่ยน “เครื่องมือช่วยวางแผน” มาเป็น “เพื่อนร่วมเดินทางตัวจริง” โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค ข้อมูลจาก Trip.com Group ระบุว่า Trip.Best ซึ่งเป็นฟีเจอร์แนะนำจุดหมายปลายทางยอดนิยม มีจำนวนเดสติเนชันที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2025 ขณะเดียวกัน ผู้ช่วยอัจฉริยะ TripGenie ของ Trip.com ก็มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 125% จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้น 242% และจำนวนบทสนทนาเพิ่มขึ้นถึง 234% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แนวโน้มดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในการใช้ฟังก์ชันแปลภาษาและการขอคำแนะนำแบบเรียลไทม์มากขึ้น ซึ่งตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ที่ต้องการความช่วยเหลือทันใจเมื่อแผนการเดินทางเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
  • การท่องเที่ยวเชิงนิเวศก้าวขึ้นมาอยู่ในกระแสหลัก: ยอดการค้นหาคำว่า bikepacking เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่การจองรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อเดือนนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 นักเดินทางยังหันมาเเข้าพักในโฮมสเตย์มากขึ้น โดยมียอดจองเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีก่อน (และการค้นหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น 22%) สอดคล้องกับการที่ Trip.com Group พัฒนารีทรีตในต่างจังหวัดกว่า 34 แห่งเพื่อตอบรับกระแสการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่กำลังมาแรง
  • ทริปกินกำลังมาแรง: ยอดการค้นหาคำว่า “food travel” ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่การจองกิจกรรมด้านอาหารผ่าน Trip.com เพิ่มขึ้นถึง 43% โดยมีประเทศไทยติดอันดับเดสติเนชั่นยอดนิยม การค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ Michelin Guide ก็เติบโตเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่านักเดินทางยุคใหม่กำลังมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงอาหารที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน
  • ธรรมชาติบำบัดและการหลีกหนีความวุ่นวาย: ความนิยมในการท่องเที่ยวเชิงเยียวยาและพักฟื้นจิตใจกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การจองทริปไปยังเดสติเนชั่นเดินป่าอย่างซาปาและแบมฟ์เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากปีก่อน ในขณะที่การจองเที่ยวบินไปภูฏานพุ่งขึ้นถึง 7 เท่า ความสนใจในการแช่ออนเซ็นก็เติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยนักเดินทางชาวไทยมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนกระแสนี้
  • “Stagecations” กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มครอบครัว: Stagecation หรือการการท่องเที่ยวเพื่อชมความบันเทิงสดกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ปัจจุบันนักเดินทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกว่า 63% เดินทางเพื่อชมคอนเสิร์ตหรือ่วมงานอีเวนต์ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยถึง 85% มักผสมผสานทริปคอนเสิร์ตหรือเทศกาลเข้ากับการท่องเที่ยวพักผ่อนของครอบครัว โดยมีเมืองศูนย์กลางยอดนิยมอย่างมาเก๊า ลาสเวกัส เมลเบิร์น และสิงคโปร์เป็นจุดหมายหลัก

เพื่อตอบรับแนวโน้มการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ShopBack และ Trip.com เตรียมเดินหน้ามอบข้อเสนอสุดคุ้มอีกมากมาย ที่ผสานทริปยอดนิยมเข้ากับการวางแผนด้วยเทคโนโลยี AI พร้อมสิทธิ์รับแคชแบ็ค เพื่อให้ทุกการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งสะดวก คุ้มค่า และน่าจดจำยิ่งขึ้น

ครบรอบหนึ่งปีของแคมเปญ TripTastic นักเดินทางสามารถรับ แคชแบ็คสูงสุด 10% ผ่านแคมเปญ 11.11 เมื่อจองโรงแรมบนเว็บไซต์ Trip.com ผ่าน ShopBack — โอกาสพิเศษในการวางแผนทริปปลายปีด้วยความคุ้มค่าที่มากกว่าเดิม

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon