FPT เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เติบโตมั่นคง ปี 68 ปั๊มรายได้กว่า 14,000 ล้านบาท บ้าน-คอนโดเปิดโครงการใหม่ทะลุเป้า โรงงาน-คลังสินค้าแรงไม่หยุด พื้นที่พอร์ต พุ่งแตะ 3.8 ล้านตร.ม. ด้านออฟฟิศ-รีเทลรักษาฟอร์มเก่ง สร้างอัตราการเช่า 89%

12

มิติหุ้น – กรุงเทพฯ 7 พฤศจิกายน 2568 บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” ประกาศผลการดำเนินงานปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) มีรายได้รวม 14,686 ล้านบาท สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่มั่นคงท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจมหภาค ผ่านการดำเนินงานอย่างมีวินัยและการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม โดยเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 8,642 ล้านบาท รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 3,329 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ 2,715 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,455 ล้านบาท

นายฮั่ว เตียง ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีงบการเงิน 2568 เป็นอีกปีที่ FPT ก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอที่มีหลายธุรกิจ ควบคู่กับความมุ่งมั่นของบุคลากรของเรา แม้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจยังคงท้าทาย แต่บริษัทฯ ได้ดำเนินงานตามแผนอย่างมีวินัยและยืดหยุ่น จึงสามารถรักษาผลการดำเนินงานของทุกกลุ่มธุรกิจให้มีความมั่นคง ตอกย้ำการมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าในระยะยาว และการบริหารจัดการอย่างรอบคอบในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย เดินหน้าเปิด 7 โครงการใหม่ เกินเป้าที่ตั้งไว้ 6 โครงการ เป็นบ้านและคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครและจังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั้งนครราชสีมาและขอนแก่น รวมมูลค่าราว 11,135 ล้านบาท พร้อมส่งแบรนด์ใหม่เข้าตลาดอย่าง “โกลดีน่า (Goldina)” ทาวน์โฮมระดับพรีเมียม รวมถึง “แกรมเมอร์ (Gramour)” และ “กูธ์เธ่ (GUTE)” ซึ่งเป็นบ้านระดับลักชัวรี ในปีนี้บริษัทฯ มุ่งพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ควบคู่กับการออกกลยุทธ์การตลาดที่โดนใจลูกค้า ท่ามกลางปัจจัยท้าทายต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจชะลอตัว ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ เป็นต้น

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างอัตราการเช่ารวมของพอร์ตโฟลิโอได้สูงถึง 92% เติบโตประมาณ 6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โรงงานและคลังสินค้าในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนามได้รับการตอบรับดีมาก ด้วยดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นของแรงหนุนจากการย้ายฐานการผลิตและการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน โดยปีนี้ได้ส่งมอบอาคารให้ลูกค้ากว่า 218,000 ตร.ม. สูงกว่าเป้าหมายซึ่งตั้งไว้ที่ 150,000 ตร.ม. มีไฮไลท์คือการส่งมอบคลังสินค้าขนาดใหญ่ พื้นที่ 89,000 ตร.ม. ให้กับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา และส่งมอบคลังสินค้าขนาด 54,000 ตร.ม. ซึ่งเป็นศูนย์คัดแยกสินค้าขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในเวียดนามใต้ให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ โดยปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยมีพื้นที่ภายใต้การบริการจัดการมากที่สุดของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในไทย ด้วยพื้นที่ในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม รวมกว่า 3.8 ล้านตร.ม.

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม อาคารสำนักงานเกรดเอและพื้นที่รีเทลสามารถรักษาอัตราการเช่าในระดับสูงที่ 89% เป็นผลจากการยกระดับคุณภาพอาคารและบริการอย่างต่อเนื่อง ด้านศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์และสีลมเอจได้จัด

แคมเปญและกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งปี สามารถดึงดูดลูกค้าและขับเคลื่อนทราฟฟิกได้เป็นอย่างดี ขณะที่ธุรกิจโรงแรมมีรายได้ ลดลง สาเหตุหลักมาจากการยุติการดำเนินงานของโรงแรมเมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซกคิวทีฟ อพาร์ตเมนต์ ซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรีในอนาคต สะท้อนถึงกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสร้างคุณค่าในระยะยาว

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon