
มิติหุ้น – บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) โชว์ผลงาน 9 เดือนปี 68 รายได้รวม 1,013 ล้านบาท เติบโต 7% หรือ 63 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจโรงไฟฟ้าและธุรกิจสุขภาพ ฟากผู้บริหาร “ดร.แคทลีน มาลีนนท์” ระบุปิดจ๊อบโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 9.9 MW มูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หนุนเป้าหมายเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมลงทุนในโครงการ Solar Big Lot Phase 1-2 และเตรียมพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน เสริมศักยภาพการแข่งขันและขยายพอร์ตพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง
ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (TSE) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้รวม 1,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% โดยมี EBITDA รวม 497 ล้านบาท และรับรู้กำไร 100 ล้านบาท โดยหลักมาจากการบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และชีวมวลอย่างมีประสิทธิภาพ จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรับรู้รายได้จากธุรกิจสุขภาพเต็มปี
สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 4/2568 คาดผลงานเติบโตต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชนตามนโยบายของภาครัฐฯ โดยมีความพร้อมในทุกมิติ ทั้งด้านแหล่งเงินทุน ที่ดิน และทีมงานที่มีประสบการณ์ พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนบนหมุนเวียนรูปแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายของแหล่งรายได้และลดความผันผวนของผลประกอบการในระยะยาว ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน เพื่อมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ทางบริษัทได้ดำเนินการปิดดีลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ขนาดติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ ขายไฟฟ้า 8.0 เมกะวัตต์ ผ่านบริษัทย่อย ไทย คอมมูนิตี้ เอ็นเนอร์ยี่ (TCE) ในการเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 100 ใน บริษัท พาวเวอร์ เอซ วัน (PACE1) มูลค่าลงทุนทั้งในส่วนของหุ้นสามัญ ที่ดิน อุปกรณ์ และการก่อสร้างรวมกว่า 2,400 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา กับ อบต.คอรุม จังหวัดอุตรดิตถ์ ระยะเวลาสัมปทาน 28 ปี 6 เดือน ทั้งนี้การก่อสร้างจะเป็นการทยอยลงทุนก่อสร้าง เมื่อได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากทางภาครัฐ
“การลงทุนดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญของ TSE ในการต่อยอดสู่ธุรกิจ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน สนับสนุนเป้าหมาย Net Zero Emission ของประเทศ โดยนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะจาก จ.อุตรดิตถ์ และบางพื้นที่ของ จ.สุโขทัยแล้ว ยังช่วยลดการฝังกลบขยะ ลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติด้านสังคม (Social) ผ่านการสร้างโอกาสการจ้างงาน การกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนโดยรอบ อันจะนำไปสู่การเติบโตที่มั่นคงและสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมในระยะยาว”
ปัจจุบัน TSE ดำเนินโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งสิ้น 62 โครงการ กำลังการผลิตรวม 382.86 เมกะวัตต์ โดยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 34 โครงการ (153.8 เมกะวัตต์) และอยู่ระหว่างพัฒนาในโครงการ Solar Big Lot Phase 1-2 อีก 28 โครงการ (229.06 เมกะวัตต์) ซึ่งจะเริ่มทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ระหว่างปี พ.ศ. 2570-2573
นอกจากธุรกิจพลังงานทดแทนที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯแล้ว กลุ่มบริษัทฯยังคงได้ขยายพอร์ทการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจสุขภาพแบบครบวงจร โดยปัจจุบันได้เริ่มจากศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยาก (IVF) และได้วางแผนเข้าสู่ธุรกิจ Wellness ความงาม และเภสัชกรรมในอนาคตเพื่อรองรับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพที่มีมูลค่าตลาด (Market share) ในประเทศไทยกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อสร้าง New S-Curve และเสริมฐานรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทระยะยาวต่อไป
“TSE มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง อัตราหนี้สินต่อทุนต่ำ และบริหารต้นทุนโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ๆและธุรกิจสุขภาพอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้ผู้ถือหุ้น” ดร.แคทลีน กล่าวในที่สุด
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























