
มิติหุ้น – บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัวที่สุด สร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินงานต่อเนื่อง เดินหน้าสร้างผลงานยอดเยี่ยม จากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ของ 2 โครงการใหม่ ได้แก่ คัลเจอร์ ทองหล่อ และ คัลเจอร์ จุฬา ส่งผลให้ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ มียอดโอนรวมถึง 3,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 132% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และสามารถทำกำไรสุทธิ กว่า 130 ล้านบาท เติบโต 380% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ กว่า 179 ล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินงานที่มั่นคงและยืดหยุ่นท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย ด้วยการตอบสนองความต้องการของคนเมืองเป็นอย่างดีผ่านการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อคนเมืองบนทำเลศักยภาพสูงสุดของกรุงเทพฯ ทั้งคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า บ้านและทาวน์โฮม พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ จำนวน 2 ชุด อายุ 1 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย [6.90]% ต่อปี และอายุ 2 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย [7.20]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยเสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ตลาดที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ยังคงมีดีมานด์ที่แข็งแกร่ง และจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อนันดาฯ ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้อยู่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย บริษัทฯ ยังคงสร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจ โดยผลดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2568 เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท เติบโตขึ้น 380% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้อนันดาฯ ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการพร้อมเข้าอยู่ใหม่ภายใต้แบรนด์คัลเจอร์ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการคัลเจอร์ ทองหล่อ และ โครงการคัลเจอร์ จุฬา ซึ่งสามารถสร้างยอดโอนได้ถึง 1,767 ล้านบาท และมียอดขายสะสมรวมของทั้งสองโครงการแล้วกว่า 7,470 หรือ 76% ของมูลค่าโครงการ พร้อมกันนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ยังมี Backlog รวมมูลค่า 5,703 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 9,795 ล้านบาท ที่จะทยอยโอนและรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2568 ไปถึงกลางปี 2569
สำหรับ Inventory ที่พร้อมรองรับการสร้างรายได้ของบริษัทฯ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 26,211 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วย Backlog ซึ่งเป็นยอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ มูลค่า 7,481 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2568 จนถึงปี 2569
อนันดาฯ ให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้าหลังการขาย ภายใต้มาตรฐาน ANANDA SURE ที่มีการดูแลลูกค้าในหลากหลายมิติ ด้วยมาตรฐานโครงสร้างระดับมืออาชีพ เริ่มตั้งแต่รากฐานที่แข็งแรงทั้งโครงสร้าง วัสดุ และระบบการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน ATQPM หรือ Ananda Total Quality Project Management ระบบบริหารคุณภาพโครงการที่อนันดาฯ ร่วมพัฒนากับพันธมิตรระดับโลกจากญี่ปุ่น เพื่อยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยให้มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ อนันดาฯ ยังได้จับมือกับ 2 พันธมิตรระดับโลก โดยการจับมือกับกลุ่มดุสิตธานี และ The Ascott Limited เพื่อเป็นการยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยในทุกมิติ ด้วยมาตรฐานการบริหารงานนิติบุคคลระดับโรงแรมห้าดาว โดยโครงการ COCO PARC อยู่ภายใต้การดูแลของ กลุ่มดุสิตธานี ผ่านทีมงาน Dusit Hospitality Services บริษัทในเครือผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารที่พักอาศัยระดับบน มอบมาตรฐานบริการระดับโลกที่ผสานความหรูหรากับวิถีชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัว ขณะที่โครงการ CULTURE Thonglor และ CULTURE Chula อยู่ภายใต้การบริหารของ The Ascott Limited ผู้นำด้านเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ระดับ World Class เข้ามายกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยให้กับลูกบ้าน ผ่านการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว มอบทั้งความสะดวกสบายและความเอ็กซ์คลูซีฟในทุกมิติของการใช้ชีวิต พร้อมสร้างคอมมูนิตี้ของคนเมืองที่เชื่อมโยงผู้คนและไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว
ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีโครงการ Porsche Design Tower Bangkok ในระดับ Ultra Luxury Segment มูลค่าโครงการกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา พร้อมทั้งขยายพอร์ตสู่ภูเก็ต ด้วยเมกะโปรเจกต์ บนพื้นที่กว่า 550 ไร่ ท่ามกลางผืนป่าเขากมลา กับโครงการ MIRA Valley มูลค่าโครงการกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อสร้างฐานรายได้ระยะยาวอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนให้กับบริษัทฯ อีกด้วย
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปีนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของอนันดาฯ ในการปรับตัวอย่างมีประสิทธิภาพ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการคุณภาพ การบริหารจัดการต้นทุนอย่างรอบคอบ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงเป้าหมายของอนันดาฯ ในการสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
นอกจากนี้ อนันดาฯ ได้มีการเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ซึ่งเป็นหุ้นกู้มีหลักประกัน โดยหลักประกันเป็นที่ดินใจกลางภูเก็ตบนทำเลศักยภาพ พื้นที่ประมาณ 251 ไร่ 1 งาน 57.4 ตร.ว. คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,344 ล้านบาท มีอัตราส่วนไม่ต่ำกว่า 1.50 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายได้ จำนวน 2 ชุด อายุ 1 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย [6.90]% ต่อปี และอายุ 2 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย [7.20]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อขั้นต่ำ100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และคาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 3-4 และ 8 ธันวาคม 2568 นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารจัดการทางการเงินที่รอบคอบ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และเสริมสภาพคล่องให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“อนันดาฯ ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดที่อยู่อาศัยในเมือง ซึ่งยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ในทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพชีวิตและการเดินทางที่สะดวกสบาย เราเชื่อว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองไทยยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก และอนันดาฯ พร้อมจะเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์โครงการที่มีคุณค่า มีคุณภาพ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่อย่างแท้จริง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว” นายประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























