TTA รายงานกำไรสุทธิ 502.9 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3/2568 จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ และกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง

47

มิติหุ้น – บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA มีรายได้ จำนวน 8,251.3 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 502.9 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3/2568 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญร้อยละ 146 เมื่อเทียบกับปี 2567 ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจชนส่งทางเรือและกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร  กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่น มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 22 ร้อยละ 60 ร้อยละ 10 ร้อยละ 6 และร้อยละ 2 ของรายได้รวมทั้งหมด ตามลำดับ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือมีอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่า เฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจฯ อยู่ที่ 14,185 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2568 ในขณะที่ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่งมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบ จำนวน 642.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 3/2568 นอกจากนี้ TTA ยังคงฐานะทางการเงินแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ ด้วยเงินสดภายใต้การบริหาร จำนวน 6.9 พันล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำที่ 0.38 เท่า ณ ไตรมาสที่ 3/2568 ในขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 2568 TTA มีกระแสเงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมการดำเนินงาน จำนวน 1,506.6 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงสภาพคล่องและฐานะการเงินที่มั่นคงของบริษัทฯ

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA เปิดเผยว่า “ในไตรมาสที่ 3/2568 ภาพรวมยังคงมีทิศทางเป็นบวก โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและสภาวะตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยดัชนีซุปราแมกซ์ (BSI) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,352 จุด เพิ่มขึ้นจาก 962 จุดในไตรมาสที่ 2/2568 สะท้อนการเติบโตของอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของสินค้าแห้งเทกองหลายประเภท ทั้งนี้ อัตราค่าระวางเรือซุปราแมกซ์ทำสถิติสูงสุดที่ 16,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน และมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 15,061 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน สำหรับภาพรวมปี 2568 ตามรายงานของ Clarksons Research คาดว่าการค้าสินค้าแห้งเทกองจะเติบโต ร้อยละ 1.4 ในหน่วยตัน-ไมล์ สะท้อนแนวโน้มความต้องการการขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์หลักประเภทต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ แนวโน้มปี 2569 ตลาดเรือขนส่งสินค้ามีแนวโน้มค่อนข้างทรงตัว โดยคาดว่าการค้าสินค้าแห้งเทกองจะเติบโตที่ร้อยละ 2.1 ในหน่วยตัน-ไมล์

ในเดือนกันยายน 2568 กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือทำการจำหน่ายเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง จำนวน 1 ลำ ประเภทซุปราแมกซ์ อายุ 24.0 ปี ทำให้กองเรือมีจำนวนลดลงไปอยู่ที่ 23 ลำ สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของกองเรือ และเสริมศักยภาพของ TTA สำหรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต”

ผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ : โทรีเซน ชิปปิ้ง รายงานรายได้ค่าระวางที่ 1,819.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปี 2567 เนื่องจากจากอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่า (TCE) ที่เพิ่มขึ้น ตามอัตราค่าระวางเรือซุปราแมกซ์ตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจฯ อยู่ที่ 14,185 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ในไตรมาสที่ 3/2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปี 2567 และร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 ในขณะที่ อัตราค่าระวางเรือที่กลุ่มธุรกิจเป็นเจ้าของอยู่ที่ 14,574 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปี 2567 และร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 พร้อมทั้งมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเรืออยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 98.7 ด้วยอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าสูงสุดอยู่ที่ 27,078 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของเรือ (OPEX) อยู่ที่ 4,684 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน และยังคงระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม อยู่ร้อยละ 12 สะท้อนถึงประสิทธิภาพสูงในการดำเนินงาน โดยสรุป โทรีเซน ชิปปิ้ง รายงานผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 378.2 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3/2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับปี 2567 และร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 โดยเป็นเจ้าของเรือจำนวน 23 ลำ (เรือซุปราแมกซ์ 21 ลำ และเรืออัลตราแมกซ์ 2 ลำ) มีระวางบรรทุกเฉลี่ยเท่ากับ 56,228 เดทเวทตัน และมีอายุเฉลี่ย 16.7 ปี

กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง : บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมด รายงานรายได้จำนวน 4,956.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปี 2567 เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท แม้ว่ารายได้ในสกุลดอลลาร์สหรัฐจะเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยรายได้จากงานรื้อถอน งานขนส่งและติดตั้ง งานสำรวจ ซ่อมแซม และซ่อมบำรุง (subsea-IRM) และงานวางสายเคเบิลใต้ทะเล มีสัดส่วนร้อยละ 63 ร้อยละ 30 และร้อยละ 7 ของรายได้รวมของกลุ่มธุรกิจฯ ตามลำดับ โดยรายได้จากงานรื้อถอน งานขนส่งและติดตั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปี 2567 และร้อยละ 63 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 ส่วนใหญ่มาจากการเริ่มงานในส่วนของปี 2568 ของโครงการงานรื้อถอน ขนส่งและติดตั้งบริเวณอ่าวไทย รวมถึงงานที่ได้รับเพิ่มเติม ขณะที่อัตราการใช้ประโยชน์ของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 94 ในไตรมาสที่ 3/2568 จากร้อยละ 87 ในไตรมาสที่ 3/2567 โดยสรุป เมอร์เมดฯ ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และกลับมาทำกำไรอีกครั้ง โดยมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 365.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญร้อยละ 1,561 เมื่อเทียบกับปี 2567 และมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบที่แข็งแกร่งเช่นกัน จำนวน 642.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 3/2568

กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร : บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA มีรายได้ที่ 787.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปี 2567 ส่วนใหญ่มาจากรายได้ที่ลดลงจากการขายปุ๋ยและผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการเกษตรอื่น (Pesticide) โดยรายได้จากการขายปุ๋ยลดลงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปี 2567 สอดคล้องกับปริมาณการขายปุ๋ยทั้งหมด 39.9 พันตัน ซึ่งลดลงร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปี 2567 ส่วนปริมาณการขายปุ๋ยในประเทศเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61 ของปริมาณขายปุ๋ยทั้งหมด หรือ 24.4 พันตัน ลดลงร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับปี 2567 เนื่องจากปัจจัยด้านฤดูกาล และการสะสมสินค้าล่วงหน้าตามการคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น จากการบังคับใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มในไตรมาสที่ 3/2568 ขณะที่ปริมาณส่งออกปุ๋ยเพิ่มขึ้นอย่างมากร้อยละ 198 เมื่อเทียบกับปี 2567 เป็น 15.5 พันตัน จากปริมาณส่งออกปุ๋ยไปยังเอเชียตะวันออกเชียงใต้และประเทศแทบแอฟริกาที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หากพิจารณาตามประเภทของปุ๋ย ปริมาณขายปุ๋ยเชิงเดี่ยว (single fertilizer) อยู่ที่ 2.2 พันตัน ขณะที่ปริมาณขายปุ๋ยเชิงผสม (NPK fertilizer) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับปี 2567 เป็น 37.7 พันตัน นอกจากนี้ รายได้จากการให้บริการจัดการพื้นที่โรงงานอยู่ที่ 34.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 โดยสรุป กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร รายงานผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 19.3 ล้านบาท ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 3/2568

กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) : พิซซ่า ฮัท ดำเนินงานภายใต้บริษัทย่อยที่ TTAถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 พิซซ่า ฮัท มีสาขาทั้งหมด 203 สาขาทั่วประเทศ

ทาโก้ เบลล์ เป็นแฟรนไชส์อาหารเม็กซิกันสไตล์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ดำเนินงานภายใต้บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ทาโก้ เบลล์ มีสาขาทั้งหมด 38 สาขาทั่วประเทศ

กลุ่มการลงทุนอื่น (Investment) มุ่งเน้นธุรกิจการบริหารทรัพยากรน้ำและโลจิสติกส์

บริษัท เอเชีย อินฟราสตรักเชอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AIM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 92.50 เป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง และให้บริการครบวงจรทางด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ AIM ยังได้รับสัมปทานในการจำหน่ายน้ำประปาในหลวงพระบาง ประเทศลาว ผ่านบริษัทย่อยที่ AIM ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon