JMART กลุ่มเจมาร์ท มองทิศทาง Q4/68 ทรงดี ธุรกิจมือถือ + Lock Phone เร่งเครื่องสู่ปี 69 ด้วยพลัง Synergy ธุรกิจบริหารหนี้ฟื้น – สุกี้ตี๋น้อยโตเด่น

9

มิติหุ้น – กลุ่มเจมาร์ทนำเสนอข้อมูลบริษัทจดทะเบียนในงาน Opportunity Day ไตรมาส 3/68 ประกาศความพร้อมเร่งเครื่องด้วยพลัง Synergy แบบเต็มสูบ ขับเคลื่อนสามเสาหลักการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรม (1) การผนึกอีโคซิสเต็มธุรกิจมือถือและเร่งสเกลโมเดลสินเชื่อ “Lock Phone” ผ่าน Jaymart Mobile – Singer – KBJ – SG Capital ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำสินเชื่อมือถืออันดับ 1 ของประเทศ (2) มองปี 2569 เป็นจุดเริ่มต้นของการ Scale Up ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพของ JMT จากทิศทางต้นทุนการเงินและ ECL ที่ลดลง วางงบลงทุนซื้อหนี้ปีหน้า 1,500 – 2,000 ล้านบาท รับโอกาสหนี้เสียในระบบ พร้อมเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินในการลงทุนหนี้ด้อยคุณภาพ (3) ศักยภาพการลงทุนใน “สุกี้ตี๋น้อย” ที่เร่งขยายสาขาและเดินเกมการตลาดเชิง Customer Centric ควบคู่การผนึกกำลังกับ JAS ASSET ผู้นำธุรกิจศูนย์การค้าชุมชน สะท้อนพลัง Synergy กลุ่มเจมาร์ทที่กำลังก้าวเข้าสู่ปี 69 ด้วยโมเมนตัมเชิงบวกและยั่งยืน

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART บริษัท Holding Company ที่มุ่งเน้นธุรกิจ Commerce Tech และ FinTech เปิดเผยว่า ภาพรวมไตรมาส 4 ปี 2568 คือจังหวะเร่งของยอดขายในธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ภายใต้ บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด (Jaymart Mobile) ซึ่งเป็นบริษัทแกน ผนึกกำลังแคมเปญสินเชื่อ Lock Phone ผ่านบริษัทในกลุ่ม โดย บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด (KB J CAPITAL) ภายใต้สินเชื่อ Samsung Finance+ และ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC บริษัทย่อยของ SINGER ภายใต้สินเชื่อ SG Finance+ ที่สร้างความสำเร็จ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ด้วย NPL ในระดับต่ำไม่ถึง 1-2% ตอกย้ำกลุ่มผู้นำธุรกิจมือถือและสินเชื่อที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ

การพุ่งเป้าสู่การเติบโตจากนี้ไป กลุ่มบริษัทได้เริ่มทำ Sand Box ในร้านเจมาร์ท แบรนด์มือถือใหม่ที่มีศักยภาพแล้ว จากปัจจุบัน KB J Capital ครอบคลุมสินเชื่อ Lock Phone ในแบรนด์ Samsung ขณะที่ SGC ครอบคลุมกลุ่มพาร์ตเนอร์ China Brand โมเมนตัมธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นฤดูกาลจับจ่ายและการเปิดตัวสินค้าเรือธง จะช่วยส่งแรงหนุนต่อเนื่องในปี 2569 ให้กลุ่มเจมาร์ทเดินหน้าขยายการเติบโตได้เต็มศักยภาพ โดยมีฐานเครือข่ายของ Jaymart Mobile ที่แข็งแกร่งในกรุงเทพฯ–ปริมณฑล ผสานกับพลังของเครือข่าย SINGER ในต่างจังหวัด เสริมบทบาทผู้นำตลาดและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ด้าน นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART เปิดเผยถึง บริษัทที่เจมาร์ทเข้าไปลงทุนอย่าง สุกี้ตี๋น้อย เดินหน้าขยายสาขาเป็นไปตามแผน ณ สิ้นตุลาคม 2568 มี 96 สาขา เรายังมองเป้าปีนี้ทะลุ 100 สาขา กระจายทั่วประเทศ ในงวดไตรมาส 3/2568 มีกำไรสุทธิ 220 ล้านบาท และ 9 เดือนแรก บริษัททำกำไรสะสมแล้ว 802 ล้านบาท โดย JMART ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น 30% คิดเป็น 233 ล้านบาท (หลังหักการปันส่วนราคาซื้อหรือ Purchase Price Allocation) แม้ต้องเผชิญการแข่งขันด้านราคา สุกี้ตี๋น้อย วางกลยุทธ์สร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า รวมถึง การขยายสาขา ด้วยศักยภาพการเข้ามาใช้บริการของลูกค้ายังเหนี่ยวแน่น

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้นำธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ (AMC) ของประเทศไทย เปิดเผยถึง ภาพรวมผลงาน 9 เดือนที่ผ่านมา ยังรักษากระแสเงินสดไว้ได้ ภายใต้เศรษฐกิจที่ชะลอตัว กลุ่มบริษัทมียอด Cash Collection รวม JK AMC อยู่ที่ 6,331 ล้านบาท มีพอร์ตบริหารหนี้สะสมแตะราว 600,000 ล้านบาท มองแนวโน้มไตรมาส 4/2568 และปีหน้า ทิศทางต้นทุนทางการเงินลดลงต่อเนื่อง จากการชำระหนี้หุ้นกู้รวมทั้งหมดในปีนี้ทั้งปีมากกว่า 6,000 ล้านบาท จ่ายคืนตามกำหนดเรียบร้อยแล้ว และเตรียมชำระคืนหุ้นกู้ในปีหน้า จากกระแสเงินสดเต็มมือ และมุมมองตลาดซื้อขายหนี้จะคึกคัก JMT วางแผนลงทุนซื้อหนี้เข้าพอร์ตปีหน้าไว้ที่ประมาณ 1,500 – 2,000 ล้านบาท ทั้งจากหนี้บ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ที่เริ่มทยอยเข้าสู่ระบบ เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

ขณะที่ นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เผยถึง ธุรกิจศูนย์การค้าชุมชน เดินหน้าต่อยอดศักยภาพโครงการปัจจุบันทั้ง 8 แห่ง พื้นที่รวมกว่า 80,000 ตร.ม. โดยคาดว่าอัตราเช่า (Occupancy Rate) จะปรับตัวดีขึ้นเกิน 90% จากการยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการดึงผู้เช่าหลักแบรนด์ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ต นอกจากนี้ การไม่มีการลงทุนศูนย์ใหม่เพิ่มเติมในช่วงนี้ ช่วยให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นการสร้างกระแสเงินสด บริหารจัดการ Fair Value และลดภาระดอกเบี้ยได้อย่างมีวินัย ทำให้มองว่าผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และปี 2569 จะเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น.

ด้าน นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ยังคงเติบโตแข็งแรง เข้าสู่ไฮซีซั่นการขายในไตรมาส 4/2568 คาดว่ายอดขายจะเติบโตต่อเนื่องราว 20% จากไตรมาสก่อน ไฮไลท์มาจากการเติบโตในธุรกิจมือถือ ขณะที่เดินหน้าขยายโครงการ ตู้น้ำมันอัตโนมัติ เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในชุมชนและพื้นที่ห่างไกล และกลุ่มสินค้า Solar Roof เริ่มทำการตลาดและปล่อยสินเชื่อผ่าน SG Finance+ สะท้อนภาพการฟื้นตัวของรายได้จากธุรกิจค้าปลีกของ SINGER ที่กลับมาเติบโตแข็งแกร่งในทุกหมวดสินค้า และยังคงแผน ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารลง 15%  อีกทั้งยังเตรียม ขยายช่องทางการขายเพิ่มเติมในไตรมาส 4 โดยเปิดร้านค้าปลีกใหม่อีก 11 แห่ง และเพิ่มจำนวนดีลเลอร์โทรศัพท์มือถือจาก 923 ราย ในไตรมาส 3 เป็น 1,200 ราย ภายในปี 2568 ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างการเติบโตต่อเนื่องของ SINGER ในช่วงปลายปี และปี 2569

นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC บริษัทย่อยของ SINGER กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส 4 คาดว่าธุรกิจ Lock Phone จะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง จากดีมานด์โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ Flagship Model และฤดูกาลจับจ่ายปลายปี จากไตรมาส 3/2568 บริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,611 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดสัญญาเช่าซื้อสะสมแตะกว่า 73,000 สัญญา และขยายเครือข่ายดีลเลอร์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 7,181 ราย ภายใต้ระบบ SG Finance+ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและอนุมัติสินเชื่ออย่างโปร่งใสและรวดเร็ว

นอกจากนี้ SGC กำลังต่อยอดสู่การปล่อยสินเชื่อควบคู่การขายประกัน SG Shield ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา สามารถขายกรมธรรม์ได้มากกว่า 10 ล้านบาท และกำลังมุ่งสู่ InsurTech ในอนาคต รวมทั้ง มุ่งเน้นออก ESG Product และ Green Loan เริ่มรุกตลาด Solar Rooftop Loan ผ่านบริษัท SINGER และ JGS ทั้งหมดคือพลังของ Synergy ภายใต้ Ecosystem เรามั่นใจว่าจะสนับสนุนการเติบโตมากขึ้นและแข็งแรงขึ้น อย่างยั่งยืน

นายอดิศักดิ์ 
กล่าวปิดท้ายว่า แผนการทรานส์ฟอร์ม New Business Gen2 ยังเดินหน้าภายใต้บริษัท เจเวนเจอร์ส จำกัด (J Ventures)  มั่นใจ กลุ่มเจมาร์ทยังเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ไม่มีปัญหาการจ่ายคืนหุ้นกู้ และ JMART ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.13 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นและเติบโตไปด้วยกัน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon