บลจ.อเบอร์ดีน เปิด 4 กองทุนRMF ครอบคลุมการลงทุน

13

นายโรเบิร์ต  เพนนาโลซา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ. อเบอร์ดีน เปิดเผยว่า กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี มีมูลค่า AUM รวมกันกว่า 467,264 ล้านบาท เติบโตจากปี 2567 ถึง 1.94% สะท้อนว่าคนไทยให้ความสนใจกับลงทุนเพื่อเกษียณมากขึ้นกว่าเดิม บลจ.อเบอร์ดีน จึงแนะนำ 4 กองทุนเด่น

1.กองทุน ABGDD-RMF (กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น เพื่อการเลี้ยงชีพ) ลงทุนหุ้นโลกผ่านกองทุนหลัก abrdn SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund Z Gross MIncA USD ซึ่งมีนโยบายมุ่งลงทุนในหุ้นปันผลเด่นทั่วโลก ทั้งหุ้นคุณค่า (Value) และหุ้นเติบโต (Growth) รวมกว่า 80-100 บริษัท โดยกองทุนหลักตั้งเป้าหมายจ่ายปันผลรายเดือนสม่ำเสมอ ซึ่งที่ผ่านมาจ่ายปันผลรายเดือนเฉลี่ยประมาณ 5-6% ต่อปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อ วันที่ 14 ตุลาคม 2563

2.กองทุน ABSM-RMF (กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ เพื่อการเลี้ยงชีพ)  ลงทุนหุ้นไทย มุ่งเน้นหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในอนาคต โดยคัดเลือกหุ้นประมาณ 20–30 บริษัท ผ่านกระบวนการวิเคราะห์เชิงลึกแบบ Bottom-up และใช้แนวทางการลงทุนแบบ High Conviction เน้นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ไม่เกิน 80,000 ล้านบาท  เหมาะสำหรับผู้ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดหุ้นไทย และมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เติบโตในระยะยาว

3.กองทุน ABAPAC-RMF (กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ) กองทุนหุ้นเอเชียที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก abrdn Pacific Equity Fund SGD class โดยมีนโยบายลงทุนในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (ไม่รวมญี่ปุ่น) มุ่งสร้างเติบโตเงินทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยกองทุนเน้นคัดเลือกหุ้นใน 3 ธีมการลงทุนหลักที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ Innovation นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนอนาคต, Globalization 3.0 การเติบโตของธุรกิจที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกยุคใหม่และ New Consumption

4.กองทุน ABSI-RMF (กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ) กองทุนตราสารหนี้ไทยที่ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งภาครัฐและเอกชน โดยปัจจุบันพอร์ตลงทุนมีอายุตราสารเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี โดดเด่นด้วยความผันผวนต่ำ สภาพคล่องสูง และมีโอกาสได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ในอนาคต เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ  โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความผันผวนต่ำและสภาพคล่องสูง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon