สมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน เผยทิศทางอุตสาหกรรมเหล็กโครงสร้างรีดร้อนปี 69 หนุนมาตรการ AD เสริมเกราะผู้ประกอบการไทย รับมือความท้าทายเหล็กนำเข้า เร่งปรับตัวสู่มาตรฐานอย่างยั่งยืน

11

มิติหุ้น – สมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน เดินหน้าสนับสนุนการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กโครงสร้างของไทย ให้สามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม และบรรเทาผลกระทบจากการตัดราคาที่เกิดจากการทุ่มตลาดของเหล็กนำเข้าราคาถูกจากจีน 

นางจินตนา เมฆเสรีกุล นายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน เปิดเผยถึงภาพรวมและทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนไทยในปี 2569 ว่า ในปี 2569 นี้จะเป็นปีแห่งการฟื้นตัวอย่างระมัดระวังของอุตสาหกรรมเหล็กไทย หลังจากตลาดมีการชะลอตัวในช่วงสองปีที่ผ่านมา ประกอบกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการก่อสร้างของภาคเอกชนที่ค่อย ๆ กลับมาจะสามารถพยุงความต้องการใช้เหล็กภายในประเทศได้พอสมควร ส่งผลให้ปริมาณการใช้เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนในประเทศในปี 2569 มีการขยายตัวเล็กน้อย โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยังคงอยู่ที่ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ หนึ่ง ราคาวัตถุดิบที่ผันผวน ส่งผลให้ต้นทุนผลิตเหล็กไม่คงที่ สอง ทิศทางการผลิตของจีน ในฐานะผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก ซึ่งส่งผลต่อราคาเหล็กในตลาดโลกโดยตรง และสาม มาตรการทางการค้าที่จะเป็นเครื่องมือจำเป็นในการปกป้องอุตสาหกรรมภายใน โดยเฉพาะการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) ที่ไม่ได้เพียงแค่ช่วยพยุงตลาด แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนในอุตสาหกรรมต่อนื่อง เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง มั่นใจได้ว่าประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาฐานการผลิตที่มั่นคง

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยควรมีการปรับตัวเชิงคุณภาพ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขันด้านราคา แต่ต้องเน้นการผลิตเหล็กที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนกำลังสูง การนำเทคโนโลยีดิจิทัล Robot & Automation มาช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต หรือการลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียว ตามแนวทางนโยบายลดคาร์บอน ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญในตลาดโลก เพื่อพัฒนาไปสู่ Green steel ในอนาคต

สำหรับแนวทางการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม สมาคมฯ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนใน 3 มิติหลัก ได้แก่

  • สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งตลอดห่วงโซ่อุปทาน
  • ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมและการเติบโตอย่างยั่งยืนของผู้ประกอบการ
  • พัฒนาองค์กร องค์ความรู้ บุคลากร และเทคโนโลยี เพื่อเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเหล็กในยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว

“ปี 2569 อาจไม่ใช่ปีที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แต่เป็นปีแห่งการวางรากฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเหล็กไทย หากเราสามารถปรับตัวได้ทัน สร้างความร่วมมือในประเทศ และต่อยอดสู่ตลาดอาเซียนได้อย่างมีกลยุทธ์ ก็จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมเหล็กไทยในการเป็นฐานการผลิตที่มั่นคงของภูมิภาคได้อย่างแน่นอน” นายกสมาคมฯ กล่าวสรุป

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon