
มิติหุ้น – กรุงเทพฯ – เอสซีจี สมาร์ทลิฟวิ่ง ตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำในตลาดวัสดุก่อสร้างไทย ด้วยการส่งมอบนวัตกรรม หลังคา เอสซีจี และสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ที่ได้รับการยอมรับมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทั้งในด้านคุณภาพ ความแข็งแรง ความสวยงาม และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนความสำเร็จของแบรนด์ที่ไม่เพียงสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค แต่ยังยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างไทยในเวทีสากล
จาก Functional สู่ Emotional & Lifestyle: ยกระดับคุณค่าของแบรนด์สู่ใจผู้บริโภค
เอสซีจี สมาร์ทลิฟวิ่ง ได้พลิกมิติการสื่อสารแบรนด์วัสดุก่อสร้างให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น โดยใช้แนวทาง Reframing + Storytelling + Cross-Industry Collaboration ได้แก่
- SCG Roof x Iron Chef Thailand
แคมเปญที่เชื่อมโยง “ความเชี่ยวชาญของ SCG Roof” เข้ากับ “ความเชี่ยวชาญของเชฟ” ถ่ายทอด “หลังคาที่สมบูรณ์แบบต้องมาจากผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียวกับทุกเมนูที่สมบูรณ์แบบต้องการเชฟมืออาชีพ” ผ่านรายการโทรทัศน์ Mass Reach คอนเทนต์โซเชียล และกิจกรรม Fine Dining ให้กับลูกค้าที่ใช้หลังคาของ SCG ถึงที่บ้าน ไปจนถึง Gala Dinner สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้กับตัวแทนจำหน่าย ได้สัมผัสประสบการณ์ Fine Dining จากเชฟระดับประเทศอย่างใกล้ชิด
- Excella Roof Journey
ครั้งแรกในประเทศไทยกับการจัดแสดง “หลังคาเซรามิก” ผ่าน Mobile Pavilion ออกเดินทางไปยังกรุงเทพฯ ขอนแก่นเชียงใหม่ และหาดใหญ่ เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสความสวยงาม และความแข็งแกร่งของหลังคา Excella ที่ฝ่าแดด ลม ฝน พายุ ท้าทายทุกสภาพอากาศทั่วไทยอย่างใกล้ชิด แคมเปญนี้ไม่เพียงสร้างการรับรู้ แต่ยังตอกย้ำ ภาพลักษณ์ Premium Thai Leader
- สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี
สร้างนิยามใหม่ให้ผนังและฝ้า โดย ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ซูเปอร์ ใช้เทคโนโลยี เฟิร์มแอนด์เฟล็กซ์ ที่ช่วยให้ผนังแข็งแรงพิเศษ ยืดหยุ่น ติดตั้งง่าย และมีฟังก์ชันสำหรับตกแต่งผนังให้สวย มีลูกเล่น เช่น ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ซูเปอร์ ซิลา ที่มีลายหินธรรมชาติ และฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แมกซ์ รุ่นระบายอากาศ-โพรเทคชั่น ที่ช่วยกันแมลงได้ในตัว และยังทำให้บ้านเย็นขึ้นอีกด้วย
กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้สินค้าวัสดุก่อสร้างไม่ได้ถูกมองแค่ในมิติ Functional (ทน แข็งแรง) แต่ยังเชื่อมโยงกับ Emotional & Lifestyle จนเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง
คุณศิรินทร์ อัศวพัฒนานนท์, Portfolio Marketing Director, Housing Product Solution Business ในธุรกิจ SCG Smart Living กล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้เอสซีจี สมาร์ทลิฟวิ่ง เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง รับฟัง Pain Point และต่อยอดสู่การพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์จริงทั้งฟังก์ชัน ดีไซน์ และสิ่งแวดล้อม เรามุ่งสร้างคุณค่าแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับชีวิตผู้บริโภค ไม่เพียงผ่านคุณภาพและนวัตกรรม แต่ยังผ่านความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เราจะยังคงเดินหน้าภายใต้แนวคิด Inclusive Green Growth เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน”
การขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม: Inclusive Green Growth
ในยุคที่กว่า 70% ของผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้ารักษ์โลกและยินดีจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ไม่เกิน 10% เอสซีจี สมาร์ทลิฟวิ่ง จึงเดินหน้ายกระดับ Green Innovation ในทุกมิติ ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้า
สำหรับในกลุ่มสินค้าหลังคา และสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี สามารถลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต
- ใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ กว่า 22% และพลังงานชีวมวล (biomass) 40% ของกระบวนการผลิต
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กว่า 70,580 ตัน CO₂ ต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 9 ล้านต้น
- เพิ่มการใช้วัตถุดิบรีไซเคิลจากอุตสาหกรรม 10% และนำเศษวัสดุเหลือจากการผลิตกลับมาใช้ใหม่ 11%
- โครงการ “Goodbye Waste” ที่นำของเหลือจากกระบวนการผลิต เช่น Concrete, Ceramic และ Fiber Cement มาออกแบบเป็นสินค้าตกแต่งบ้านและของใช้ที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง สร้าง Sense of Pride ให้ผู้บริโภคที่รู้สึกว่าการเลือกใช้สินค้าของ SCG คือการร่วมเป็นส่วนนึงเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
Green Choice Products
เอสซีจีได้พัฒนา “กรีนช้อยส์” (Green Choice) ขึ้นเป็นฉลากสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14021 (Self-Declared Environmental Claims) เพื่อสื่อสารอย่างโปร่งใสถึงคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น และช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสินค้านั้นผ่านการออกแบบและผลิตโดยคำนึงถึงโลกและสุขภาพของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานสะอาด การลดการปล่อยคาร์บอน การใช้วัสดุรีไซเคิล การออกแบบเพื่อยืดอายุการใช้งาน หรือการผ่านมาตรฐานปลอดใยหินที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
“กรีนช้อยส์” จึงไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสะท้อนวิสัยทัศน์ของเอสซีจี
สมาร์ทลิฟวิ่ง ในการพัฒนานวัตกรรมที่มอบคุณค่าแก่ทั้ง บ้าน ผู้คน และโลกใบนี้ อย่างยั่งยืน
Commitment ระดับประเทศ
นอกจากการพัฒนาสินค้าแล้ว SCG ยังให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิต โดยมีการปรับปรุงโรงงานและเทคโนโลยีการผลิตเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศให้น้อยที่สุด พร้อมวางเป้าหมายชัดเจนตามพันธกิจของประเทศไทยและระดับโลก ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25% ภายในปี 2573 (2030) เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนทั้งในมิติธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
คุณศรา สุธาสุทธิ์ ESG Manager กล่าวเสริมว่า “สิ่งที่สะท้อนความแข็งแกร่งของ เอสซีจี สมาร์ทลิฟวิ่ง ไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์ที่แข็งแรงและสวยงาม แต่คือความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคที่ยืนเคียงข้างแบรนด์เสมอมา ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมเป็นความท้าทายใหญ่ เราจึงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมที่ครอบคลุมทั้งการใช้งาน ไลฟ์สไตล์ และคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้บ้านทุกหลังเป็นพื้นที่ที่อยู่อย่างสบาย ปลอดภัย และยั่งยืนในทุกสถานการณ์”
เอสซีจี สมาร์ทลิฟวิ่ง จะยังคงขับเคลื่อนด้วยแนวคิด Customer Centric + Green Innovation ส่งมอบสินค้า ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค แต่ยังสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของ ผู้คน เพื่อสานต่อความเป็นผู้นำในตลาดวัสดุก่อสร้างไทย และสร้างอนาคตการอยู่อาศัยที่ดียิ่งขึ้น สำหรับสังคมไทยและโลกใบนี้
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon

































