
มิติหุ้น – ถึงช่วงฤดูกาลวางแผนภาษีประจำปี ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีเงินได้ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการบริหารเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลายคนอาจกำลังมองหาวิธีลดหย่อนภาษีที่คุ้มค่า บทความนี้ได้รวบรวมสิทธิลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาที่ควรรู้ พร้อมแนะนำแนวทางการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การหาอัตราภาษีแบบขั้นบันได
หน้าที่ของผู้มีเงินได้ทุกคนเมื่อถึงระยะเวลาที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือ อัตราการเสียภาษีของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับรายได้ต่อปีของแต่ละบุคคล โดยประเทศไทยมีการกำหนดอัตราการเสียภาษีแบบขั้นบันได ดังนี้
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระทางภาษีของประชาชน กรมสรรพากรยังได้อนุญาตให้ผู้มีรายได้สามารถนำค่าใช้จ่ายบางอย่างมาใช้ในการลดหย่อนภาษีอีกทางหนึ่ง โดยรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่กฎหมายอนุญาตให้นำมาหักออกจาก “เงินได้พึงประเมิน” มีอยู่หลายรายการ โดยหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็จะเหลือ “เงินได้สุทธิ” ที่จะนำไปใช้คำนวณภาษีตามอัตราขั้นบันได ยิ่งมีรายการค่าลดหย่อนมากเท่าไร เงินได้สุทธิก็จะยิ่งน้อยลง ส่งผลให้เสียภาษีน้อยลงหรืออาจได้รับเงินคืนภาษี การทำความเข้าใจรายการลดหย่อนต่างๆ จึงเป็นหัวใจสำคัญของวิธีลดหย่อนภาษีที่มีประสิทธิภาพ ทีนี้ลองมาดูว่าค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
Check List รายการลดหย่อนภาษีปี 2568
1. ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้มีเงินได้ที่สามารถนำค่าใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัวมาใช้ลดหย่อนภาระภาษีได้ ดังนี้
- สิทธิลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- สิทธิลดหย่อนสำหรับคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ 60,000 บาท
- ค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ลดหย่อนได้ตามจริง ไม่เกิน 60,000 บาท
- สิทธิลดหย่อนบุตร คนละ 30,000 บาท (สำหรับบุตรคนที่ 2 ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป ลดหย่อนได้ 60,000 บาท) โดยบุตรต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปีและยังศึกษาอยู่
- สิทธิเลี้ยงดูบิดา/มารดา คนละ 30,000 บาท สำหรับบิดามารดาที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
- ค่าดูแลผู้พิการหรือทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท
2. ค่าลดหย่อนกลุ่มประกันชีวิต สุขภาพและการลงทุน
ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และ ประกันเพื่อการเกษียณอายุ
- เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป และประกันสะสมทรัพย์ : ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
- เบี้ยประกันสุขภาพตนเอง : ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อนำไปรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้ว ไม่เกิน 100,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรส : กรณีที่คู่สมรสไม่มีเงินได้ ลดหย่อนได้สูงสุด 10,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา : ลดหย่อนได้ตามจริง ไม่เกิน 15,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ : ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี หรือลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี กรณีที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
การลงทุน ซึ่งมีความหลากหลาย อาทิ
- กลุ่มกองทุน : ประกอบด้วย กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนรวมกันได้สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
- กองทุนรวม Thai ESG ปี 2567-2569 : ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 300,000 บาท
- กองทุนรวม Thai ESGX (เงินใหม่) เดือนพ.ค. – มิ.ย. 2568 : ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 300,000 บาท
- กองทุนรวม Thai ESGX (สับเปลี่ยนจาก LTF) เดือนพ.ค. – มิ.ย. 2568 : ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 300,000 บาท
- เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท
ค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินบริจาค
- เงินบริจาคทั่วไป : ลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว
- เงินบริจาคเพื่อการศึกษา กีฬา พัฒนาสังคม สาธารณประโยชน์ และโรงพยาบาลรัฐ : ลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคจริง รวมแล้วไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
- เงินบริจาคให้แก่พรรคการเมือง : ลดหย่อนได้สูงสุด 10,000 บาท
ค่าใช้จ่ายกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ
- โครงการ Easy E-Receipt 2.0 (ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568) ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท จากการซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ที่มี e-Tax Invoice หรือ e-Receipt
- ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัย : สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม สามารถนำดอกเบี้ยจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงตลอดทั้งปี สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
- ค่าสร้างบ้านใหม่ ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 2567 – 31 ธ.ค. 2568 ลดหย่อนได้ 10,000 บาท ต่อจำนวนค่าก่อสร้างที่จ่ายจริงทุก 1 ล้านบาท (รวม VAT แล้ว) รวมแล้วไม่เกิน 100,000 บาท
ประกันลดหย่อนภาษี ช่วยสร้างเงินออมพร้อมมอบความคุ้มครองชีวิต
หากพูดถึงการทำประกันเพื่อการลดหย่อนภาษี กรุงเทพประกันชีวิต มีบริการประกันออนไลน์ ที่สะดวก รวดเร็ว พัฒนามาจากความเข้าใจเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ให้คุณสามารถเลือกแผนที่ตรงกับเป้าหมายทางการเงินได้มากที่สุด ได้แก่
ประกันสะสมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1
เป็นแบบประกันที่ตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ต้องส่งเบี้ยประกันเป็นเวลาหลายปี โดยสามารถจ่ายเบี้ยครั้งเดียวจบ ไม่ต้องกังวลเบี้ยปีต่อไป พร้อมรับเงินคืนทุกปี ปีละ 1.75% (1) รวมตลอดสัญญารับ 117.5% (1)
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bla.bangkoklife.com/101pr
ประกันสะสมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 10/5
เป็นแบบประกันที่ช่วยสร้างเงินออมก้อนใหญ่ โดยสามารถรับเงินคืนปีละ 100% (1) ตั้งแต่ปีที่ 7-9 รวมตลอดสัญญารับ 525% (1)
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bla.bangkoklife.com/105pr
ประกันบำนาญลดหย่อนภาษี แฮปปี้ เพนชั่น (มีเงินปันผล)
การันตีรับเงินบำนาญ ตั้งแต่อายุ 60-99 ปี มีโอกาสรับเงินบำนาญเพิ่มพิเศษตลอดสัญญา (2) ให้คุณเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยได้เอง 1 ปี/ 5 ปี/ 10 ปี หรือจนถึงอายุ 60 ปี วางแผนเกษียณตั้งแต่อายุน้อย ค่าเบี้ยยิ่งถูก
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bla.bangkoklife.com/pensionpr
กรุงเทพประกันชีวิต ใส่ใจทุกขั้นตอนซื้อประกันออนไลน์ ตอบรับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ใช้งานง่าย สามารถดูรายละเอียดความคุ้มครอง กดคำนวณเบี้ย เพื่อเปรียบเทียบผลประโยชน์ด้วยตัวเองได้ที่นี่ https://bla.bangkoklife.com/onlinepr ทั้งยังใส่ใจความปลอดภัย โดยได้รับการรับรองระบบ ISO/IEC 27001:2022 ระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ พร้อมมอบประสบการณ์ดีที่สุดในการเลือกซื้อประกันชีวิตผ่านช่องทางออนไลน์ให้กับคุณ
หมายเหตุ
(1) %ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
(2) ผลประโยชน์ที่ไม่รองรับการจ่าย
โปรดทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon































