Pi Daily หุ้นสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวโดยกลุ่ม Tech ดีกับหุ้นไทยอย่าง DELTA แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยเสี่ยงกับ Downside จากปัจจัยน้ำท่วมในพื้นที่หาดใหญ่ แต่ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจใหญ่อาจจำกัด เชื่อว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย

29

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 202 จุด (+0.4%) แรงหนุนจากการปรับขึ้นของกลุ่ม Technology ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.3% รับกับการปรับลดดอกเบี้ยที่จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์

เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้มีการรายงานตัวเลขของสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นแข็งแกร่งได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีประเมินว่าการปรับขึ้นอาจมาจากความคาดหวังเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยที่อาจปรับปรุงในเดือนธันวาคมข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนัก 70% ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดดอกเบี้ยซึ่งสอดคล้องกับ US Bond Yield ที่ปรับลง หุ้น Technology เมื่อคืนที่ปรับเด่นได้แก่ NVIDIA +2% Alphabet +6.3% AMD +5.5% ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 0.3%MoM , ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 0.4%MoM สำหรับตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิดทรงตัวประเมินว่าเป็นเพราะตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ใหม่ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับประมาณการลงจากภาวะน้ำท่วมในพื้นที่หาดใหญ่กดดันกำลังซื้อรวมไปถึงการท่องเที่ยวที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาล

ข้อมูลระบุว่าจังหวัดสงขลามีจำนวนนักท่องเที่ยวอันดับ 11 ด้วยสัดส่วน 3.6 ล้านรายแต่มีสัดส่วน GDP มากสุดในภาคใต้ราว 2.4 แสนล้านบาทแต่เทียบกับกรุงเทพจะอยู่ที่ 5 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ ปี 2019) วันนี้ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่าง DELTA ประกอบกับรัฐบาลเองออกมาตรการกระตุ้นโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 4.8 แสนล้านบาท ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX ที่ 1245 – 1260 นอกจากนี้ยังคาดว่าจะได้แรงหนุนจากความคาดหวังลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยจากเศรษฐกิจที่เสี่ยงจะเกิด Downside Risk ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นมีปัจจัยหนุน อาทิ การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ท่องเที่ยว (MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (SCB) และเช้านี้รอติดตามตัวเลขส่งออกไทย Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 6.5%YoY แต่จะขาดดุลการค้า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)

กำไรสุทธิออกมาที่ 12.1 พันล้านบาท (+10% YoY, -6% QoQ) ดีกว่าคาดราว 5% เนื่องจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน FVTPL สูงกว่าคาด

MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท)

ผลการดำเนินงานใน 3Q25 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+16% YoY, +5% QoQ) และ NPL ratio ทรงตัวที่ 3.6% เราคงประมาณการคาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะขยายตัว 14% ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q25 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวล้อกับสินเชื่อที่แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon