
มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 พ.ย.) ในการซื้อขายที่เบาบางเพราะตลาดปิดทำการเร็วกว่าปกติหลังวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,716.42 จุด เพิ่มขึ้น 289.30 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,849.09 จุด เพิ่มขึ้น 36.48 จุด หรือ +0.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,365.69 จุด เพิ่มขึ้น 151.00 จุด หรือ +0.65%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (28 พ.ย.) หลังปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งตลอดทั้งสัปดาห์ และปิดเดือนพ.ย.ด้วยสัญญาณเชิงบวก โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 576.43 จุด เพิ่มขึ้น 1.43 จุด หรือ +0.25%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ส่งผลให้ความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 52.60 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 4,254.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 62.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
• SET Index:
เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,250-1,280 จุด โดย ติดตามผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในภาคใต้ของไทย (ประมาณ 7% ของ GDP ไทย) โดย สภาพัฒน์ฯ คาดการณ์ว่าผลกระทบโดยรวมต่อ GDP ของประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 0.10-0.16%
ด้วยเหตุนี้ เราจึงปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ปี 2025 ลงเหลือ 2.0% โดยเรามองว่าเศรษฐกิจได้ถูกรับการช่วยเหลืออย่างมากจากการเติบโต 3% ในช่วงครึ่งแรกของปี และ เราคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.25% ในการประชุมครั้งหน้า
หุ้นแนะนำ
CCET:
CCET เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ EMS ชั้นนำของโลก และ อยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้ม China+1 และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของความต้องการ HDD/SSD
เราคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นหลักของ CCET จะเติบโต 29% เมื่อเทียบกับปีก่อนในปี 2026 โดยอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) จะเพิ่มขึ้นจาก 7.2-12.2% ในปี 2023-2024 เป็น 9.5-13.5% ในปี 2025-2027
(Take profit : 4.74 / Stop loss : 4.56)
ADVANC:
AIS ทำกำไรสุทธิ 1.2 หมื่นล้านบาท (+37% yoy, +9.6% qoq) ใน 3Q25 ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเราและ Bloomberg consensus 9%
ผู้บริหารเผยว่าอัตราการใช้งาน 5G ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ ARPU ของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2026-27
(Take profit : 311.00 / Stop loss : 303.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























