
มิติหุ้น – Investment Strategy
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (16 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดลดลงเช่นกัน โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเฮลธ์แคร์ ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุด ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและยอดค้าปลีก เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,114.26 จุด ลดลง 302.30 จุด หรือ -0.62%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,800.26 จุด ลดลง 16.25 จุด หรือ -0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,111.46 จุด เพิ่มขึ้น 54.05 จุด หรือ +0.23%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (16 ธ.ค.) นำโดยการร่วงลงอย่างรุนแรงของหุ้นกลุ่มกลาโหมและกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลการจ้างงานที่น่าผิดหวังทั้งในประเทศและในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 579.80 จุด ลดลง 2.74 จุด หรือ -0.47%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 4,332.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดขยับลงเล็กน้อยในวันอังคาร (16 ธ.ค.) หลังจากราคาพุ่งขึ้นในระหว่างวัน ภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า อัตราว่างงานปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.71% ปิดที่ 58.92 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดน้ำมันยังคงถูกกดดันจากความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,250-1,270 จุด เราแนะนำระมัดระวังแรงเทขายในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมัน และ spread ที่มีแนวโน้มปรับตัวลง รวมถึงการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท US$/THB ที่แข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
ประเด็นสำคัญ ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ โดยเราคาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ 1.25% ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Finance
โดยหากมีการลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด เรามองว่าอาจเป็นปัจจัยหนุนต่อดัชนีได้บ้าง อย่างไรก็ตามยังคงขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนดัชนีให้ไปต่อได้
หุ้นแนะนำ
ADVANC: เราคาดว่า ADVANC จะมี EPS เติบโตเฉลี่ย 12.6% CAGR ในปี 2024-27 จากความต้องการใช้งานข้อมูลของลูกค้า และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.4-5.0% ในปี 2025-27 นอกจากนี้ เรายังชอบกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นลูกค้าคุณภาพที่มีการใช้งานสม่ำเสมอ
(Take profit : 313.00 / Stop loss : 308.00)
BDMS: เราเชื่อว่าตลาดรับรู้ความกังวลเรื่องการชะลอตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแล้วเนื่องจากปัจจุบัน BDMS ซื้อขายอยู่ที่ P/E เพียง 17x ในปี FY26 หรือเท่ากับ -2SD จากค่าเฉลี่ย 10 ปี ขณะที่เราเชื่อว่ารายได้ที่ฟื้นตัวจะช่วยหนุนราคาหุ้น
(Take profit : 20.00 / Stop loss : 19.50)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon































