CGSI สรุปภาพรวมตลาด

25

มิติหุ้น – CGSI สรุปภาพรวมตลาด
• สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568 เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,362.68 จุด เพิ่มขึ้น 227.79 จุด หรือ +0.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,878.49 จุด เพิ่มขึ้น 43.99 จุด หรือ +0.64% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,428.83 จุด เพิ่มขึ้น 121.21 จุด หรือ +0.52%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มกดดันดัชนี ขณะที่นักลงทุนประเมินสถานการณ์ซื้อขายที่เริ่มต้นอย่างซบเซาในสัปดาห์นี้หลังจากตลาดปิดทำสถิติสูงสุดในวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 586.75 จุด ลดลง 0.75 จุด หรือ -0.13%

• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 82.10 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 4,469.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2.65% ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะชงักงัน หลังจากสหรัฐฯ ยังคงพยายามยึดเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลา รวมทั้งรายงานที่ว่ากองกำลังทหารของยูเครนได้ทำการโจมตีเรือของรัสเซียในทะเลดำ

• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,250-1,280 จุด เราคาดการณ์ในสัปดาห์นี้ ดัชนีจะเคลื่อนไหว sideway อยู่ในกรอบ เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ในการขับเคลื่อนดัชนี และเข้าใกล้ช่วงวันหยุดคริสมาสต์ ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในช่วงนี้ออกไป อย่างไรก็ตามดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นโดยที่มีแรงหนุนจากหุ้น DELTA ที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งรับ Sentiment ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ที่ปรับขึ้น

ปัจจัยในประเทศไทยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมือง ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและเวเนซุเอลา ทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิรัฐศาสตร์อีกครั้ง

หุ้นแนะนำ

CK: เราเชื่อว่านักลงทุนรับรู้ความกังวลจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจส่งผลทำให้การประมูลโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานล่าช้าแล้ว โดยเราเชื่อว่าราคาหุ้นอาจปรับตัวสูงขึ้นหากบริษัทชนะประมูลโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐและมี SG&A ลดลง

(Take profit : 12.50 / Stop loss : 12.00)

SCB: เราแนะนำ “ซื้อ” เพราะคาดว่า SCB จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ 7.9-8.3% ต่อปีในปี FY25-27 (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารไทยที่เราศึกษา) รวมทั้งมี ROE สูงที่ 9.0-9.6% ในปี FY25-27

(Take profit : 137.00 / Stop loss : 134.00)

#CGSInternational
#CGSI

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon