
มิติหุ้น – CGSI สรุปภาพรวมตลาด
• สรุปภาพรวมตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (23 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3/2568 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนหุ้นเติบโต (Growth Stocks) แม้ข้อมูลดังกล่าวอาจลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,442.41 จุด เพิ่มขึ้น 79.73 จุด หรือ + 0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,909.79 จุด เพิ่มขึ้น 31.30 จุด หรือ +0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,561.84 จุด เพิ่มขึ้น 133.02 จุด หรือ +0.57%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ในวันอังคาร (23 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ หลัง Novo Nordisk บริษัทขนาดใหญ่ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ สำหรับการจำหน่ายยาลดน้ำหนักชนิดเม็ด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 588.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ +0.34%
• สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,500 ดอลลาร์ในวันอังคาร (23 ธ.ค.) ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 36.30 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 4,505.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 62.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3/2568 และความเสี่ยงที่อุปทานน้ำมันจากรัสเซียและเวเนซุเอลาจะเกิดภาวะชะงักงัน
• SET Index: เราคาดการณ์กรอบ SET Index 1,250-1,280 จุด เราคาดการณ์ในสัปดาห์นี้ ดัชนีจะเคลื่อนไหว sideway อยู่ในกรอบ เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ในการขับเคลื่อนดัชนี โดยมูลค่าซื้อขายจะค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสมาสต์
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานดี เนื่องจากอาจมีแรงซื้อเข้ามาจากกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง ThaiESG และ RMF ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ระมัดระวังต่อการลงทุนในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเรามองว่าสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชามีความเป็นไปได้ที่จะยังไม่ยุติลงในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจทำให้สหรัฐยิ่งกดดันไทยเพื่อให้สงบศึกกับกัมพูชา เราจึงมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มที่เน้นการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐ อย่างเช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในกรณีที่มีการหยุดยิงโดยไม่มีประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซงเรามองว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย
หุ้นแนะนำ
ADVANC: เราคาดว่า ADVANC จะมี EPS เติบโตเฉลี่ย 12.6% CAGR ในปี 2024-27 จากความต้องการใช้งานข้อมูลของลูกค้า
(Take profit : 317.00 / Stop loss : 312.00)
SCB: เราแนะนำ “ซื้อ” เพราะคาดว่า SCB จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ 7.9-8.3% ต่อปีในปี FY25-27 (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารไทยที่เราศึกษา) รวมทั้งมี ROE สูงที่ 9.0-9.6% ในปี FY25-27
(Take profit : 137.50 / Stop loss : 135.00)
#CGSInternational
#CGSI
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon






























